ต้องยกให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุง ที่น่ามาเยือนมาก ๆ สำหรับสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ขับรถจากกรุงเทพฯเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็จะได้มาสัมผัสอากาศดี ๆ และวิวสองข้างทางที่เขียวขจีดูสบายตา ที่นี่เหมาะจะพาครอบครัวมาพักผ่อน ยิ่งถ้าครอบครัวไหนมีเด็ก ๆ หรือน้อง ๆ หนู ๆ รับรองว่าจะต้องชอบมากแน่ ๆ เพราะมีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ มีสวนสัตว์และกิจกรรมน่ารัก ๆ ให้ทำทั้งครอบครัว ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวน่าสนใจในสวนผึ้ง เดี๋ยววันนี้เราจะพาไปชมทั้ง 15 สถานที่ท่องเที่ยวอัพเดทปี 2565 กันเลยจ้า
1. Suanphueng Highland
สำหรับสถานที่เที่ยวแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียง กำลังมาแรงและฮอตสุด ๆ เป็นสวนสัตว์ที่ตั้งอยู่ในสวนผึ้ง บรรยากาศดี มีความร่มรื่นมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ทั้งป้อนอาหารสัตว์ ปั่นจักรยาน เที่ยวชมและถ่ายรูปสวย ๆ ค่าเข้าชมราคาอยู่ที่ 300 บาท ต่อท่าน สำหรับเด็กราคา 250 บาท สามารถเปิดรับกรุ๊ปท่องเที่ยวพิเศษได้ด้วย ที่นี่จะมีกิจกรรมป้อนอาหารยีราฟ มีร้านคาเฟ่ เครื่องดื่มด้านในและจัดสวนแบบอังกฤษ ให้เดินถ่ายรูปและยังมีบ่อปลาคาร์ฟสุดอลังการ ที่เป็นไฮไลท์ที่ห้ามพลาด การเดินทางคลิกที่นี่
2. เขากระโจม
พามาต่อกันที่เขากระโจม ซึ่งเป็นยอดเขาสูงอากาศเย็นสบายตลอดปี ใครที่เป็นสายแคมป์ปิ้ง ชอบผจญภัยต้องแวะมา ช่วงที่หมอกลงจะสุด ๆ จะเป็นช่วงเดือนตุลาคม-มกราคม นักท่องเที่ยวจะนิยมขึ้นมาเดินสำรวจเส้นทาง และชมวิวบนจุดสูงสุดของยอดเขา เส้นทางไม่คดเคี้ยว แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการเดิน นอกจากนี้ยังสามารถกางเต็นท์และเข้าพักตามรีสอร์ตต่าง ๆ สองข้างทางได้ หากใครอยากขับรถขึ้นเองจะมีค่าบริการ 50 บาท หรืออยากเหมารถนำเที่ยวราคาจะอยู่ที่ประมาณ 2,500 – 3,000 บาท การเดินทางคลิกที่นี่
3. The Scenery Vintage Farm
สำหรับที่นี่บรรยากาศน่ารักมาก เป็นฟาร์มขนาดใหญ่ที่ให้เราเดินเล่นชิล ๆ กับน้องแกะ โดยจะมีกิจกรรมต่าง ๆ ภายในฟาร์มทั้งป้อนนมแพะ ให้อาหารแกะ และมีเกมมากมาย รวมทั้งยังมีกิจกรรมเตะบอลยิงธนู ขี่ม้าและโชว์จากสัตว์ต่าง ๆ ภายในบริเวณนี้จะมีอาหาร ไอศครีม น้ำ ขนมให้เราได้ชิมไปพร้อม ๆ กับการทำกิจกรรมและยังมีบริการแต่งกายถ่ายรูปวินเทจด้วย เปิดให้บริการทุกวัน ค่าเข้าชมอยู่ที่ 50 บาท ต่อท่าน การเดินทางคลิกที่นี่
4. CORO Field
เอาใจสายที่ชื่นชอบธรรมชาติและอยากเที่ยวฟาร์มออแกนิคกันบ้าง ที่นี่เป็นฟาร์มสไตล์ญี่ปุ่นแบบมินิมอลสุด ๆ มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียวขจีและยังเป็นฟาร์มที่ปลูกเมล่อนพันธุ์ดี มีเมล่อนจำหน่ายสด ๆ รวมทั้งยังมีของที่ระลึกขาย ไม่ว่าจะเป็นผักออร์แกนิค ข้าวออร์แกนิค ไอศครีมเมล่อนและน้ำปั่นเมล่อน และจะมีความพิเศษในช่วงเดือนธันวาคมปลายปี จะมีกิจกรรมดนตรีในสวน ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชมและนั่งฟังเพลงชิล ๆ มุมถ่ายรูปภายในร้าน มีความสวยเหมือนอยู่ญี่ปุ่น ถ้าใครชื่นชอบสไตล์นี้มาแล้วไม่ผิดหวัง การเดินทางคลิกที่นี่
5. น้ำตกเก้าโจน
ต่อมาก็มาเล่นน้ำกันที่น้ำตกเก้าโจน หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือน้ำตกเก้าชั้น เป็นน้ำตกที่อยู่ห่างจากทางไปน้ำร้อนบอกคลึงประมาณ 1 กิโลเมตรเท่านั้นเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่นี่มีน้ำตลอดทั้งปีและน้ำตกไหลลงมาจากหน้าผาอย่างสวยงาม ช่วงหน้าฝนน้ำจะยิ่งเยอะเล่นได้สนุกสนาน และหินบริเวณน้ำตกเป็นหินแกรนิตสีจะสวยมีความเงา เป็นเอกลักษณ์ของน้ำตกเก้าโจน สามารถมาเล่นน้ำและนั่งทานอาหารอร่อย ๆ ปิกนิคชิล ๆ มีค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 20 บาทและเด็ก 10 บาท การเดินทางคลิกที่นี่
6. Alpaca Hill
ว่ากันว่าที่นี่คือฟาร์มเพาะพันธุ์อัลปาก้าแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ตั้งอยู่บนพื้นที่มากกว่า 250 ไร่ในอำเภอสวนผึ้ง เป็นดินแดนแห่งคนรักสัตว์ที่ถ้าใครชื่นชอบบอกเลยว่าห้ามพลาด จะได้เข้าใกล้ชิดเล่นกับน้องแบบสนุกสนานและเป็นกันเอง สามารถเดินเที่ยวชมถ่ายรูป และจะได้ภาพน่ารัก ๆ กับอัลปาก้าด้วย นอกจากนี้ยังจะได้เจอนกกระจอกเทศ เป็ด กวาง นกแก้วและจิงโจ้น้อย ที่นี่จะเปิดให้บริการทุกวัน ราคาบัตรเข้าชมเริ่มต้นที่ 290- 1,690 บาท การเดินทางคลิกที่นี่
7. Veneto Suanphueng
ถ้าใครเป็นสายที่ชอบถ่ายรูปสวย ๆ ขอแนะนำให้มาเยือนที่เวเนโต้ ซึ่งจะมีอาคารสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกขนาดใหญ่ ทำให้เราเดินชมได้อย่างเพลิดเพลิน และยังเป็นแหล่งศิลปะที่รวบรวมภาพถ่าย 4 มิติให้เราได้เข้าไปถ่ายรูปอย่างใกล้ชิด และยังมีฟาร์มกระต่าย Holland Lop ตัวเล็กน่ารัก ให้ได้ป้อนอาหารกระต่ายแบบใกล้ชิดด้วย กิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ก็จะมีทั้งปั่นจักรยานน้ำ ให้เด็ก ๆ ขี่ม้าแคระและป้อนอาหารน้องเต่าซูคาต้า ที่นี่เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 น.-16.30 น. มีค่าเข้าชมอยู่ที่ 150 บาท สำหรับผู้ใหญ่และเด็กราคา 100 บาท ส่วนผู้สูงอายุราคา 120 บาท การเดินทางคลิกที่นี่
8. ไร่องุ่นมีสุข สวนผึ้ง
ต่อมาเราจะพาไปเช็คอินกันที่สวนดอกไม้และไร่องุ่นมีสุข แลนด์มาร์คสำคัญที่พลาดไม่ได้เลยหากมาเที่ยวสวนผึ้ง ยิ่งในช่วงหน้าหนาวอากาศดี ทางไร่จะจัดโซนสวนดอกไม้หลากหลายแบบ ให้นักท่องเที่ยวแวะเข้ามาถ่ายรูป มีค่าเข้าชมเพียง 20 บาทเท่านั้น ภายในไร่ยังมีร้านกาแฟสด ร้านอาหารและร้านจำหน่าย ผลผลิตของไร่ เช่น องุ่นหลากหลายสายพันธุ์ น้ำองุ่นและไวน์องุ่น จะได้นั่งรถรางเที่ยวชมและมองเห็นพวงองุ่นสีเขียวสวย ๆ อีกด้วย การเดินทางคลิกที่นี่
9. ธารน้ำร้อนบ่อคลึง
ยกให้เป็นออนเซ็นแบบธรรมชาติของเมืองไทย ที่ถ้าได้มาเที่ยวสวนผึ้งต้องแวะ เพราะราคาย่อมเยาว์ และมีความรู้สึกผ่อนคลาย เพราะสามารถลงไปแช่น้ำได้ ค่าเข้าชมและใช้บริการผู้ใหญ่ 50 บาทเด็ก 30 บาท โดยที่นี่ถือว่าเป็นธารน้ำร้อนจากธรรมชาติที่อยู่ใกล้กรุงมากที่สุด ตัวน้ำจะไหลผ่านหินแร่มาจากเทือกเขาตะนาวศรี ผ่านก้อนหินกรวดทราย และป่าไม้เบญจพรรณ เมื่อนอนแช่ตัวไป จะได้บรรยากาศที่ดี เพราะสามารถชมวิวธรรมชาติรอบ ๆ ได้ 360 องศาเลย การเดินทางคลิกที่นี่
10. หมู่บ้านห้วยน้ำใส
ส่วนหมู่บ้านห้วยน้ำใส ในสวนผึ้ง มีชื่อเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า แม่กำปองราชบุรี เพราะบรรยากาศคล้าย ๆ แม่กำปองในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีวัฒนธรรมไทยมอญ บรรยากาศค่อนข้างลึกลับ แต่ก็เป็นส่วนตัว ได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดผ่านลำธารเล็ก ๆ ที่ให้ความสดชื่น ภายในหมู่บ้านแห่งนี้ก็จะมีที่พักแบบโฮมสเตย์บ้าน ๆ มีกิจกรรมตื่นมาให้ตักบาตร และหาของอร่อยแบบพื้นเมืองทาน ทั้งข้าวเหนียว ขนมถ้วย หอมทอดและมีผลิตภัณฑ์พื้นบ้านไว้จำหน่าย หากใครอยากมาตักบาตรในตอนเช้า จะมีบริการแค่วันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์เท่านั้น การเดินทางคลิกที่นี่
11. บ้านน้าตรี สวนผึ้ง
ใครที่อยากมาเที่ยวกับเพื่อน ๆ เป็นกลุ่มเป็นแก๊ง ที่บ้านน้าตรีสวนผึ้งตอบโจทย์มาก ๆ เพราะที่นี่เป็นลานกางเต็นท์ขนาดใหญ่และสามารถประกอบอาหารทานเองได้ วิวภายในที่พักบรรยากาศดี ตื่นเช้าได้สัมผัสหมอกหนา ๆ หรือถ้าใครไม่ได้นำเต็นท์มานอนพักจะเที่ยวแบบ One Day Trip ก็ได้นะ สามารถเข้ามาสั่งอาหารกาแฟและนั่งชมวิวชิล ๆ ยามเช้าได้บรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเองมาก การเดินทางคลิกที่นี่
12. The Backyard by บ้านผางาม
มาทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์ กันต่อได้เลย ที่นี่มีแต่ความสนุกสนาน สำหรับสายที่ชอบการผจญภัย จะมีกิจกรรมซิปไลน์ ปีนหน้าผาและนั่งชิงช้า ได้เล่นซิปไลน์ไปพร้อมกับชมเส้นทางธรรมชาติตลอดทั้ง 2 ข้างทาง ค่ากิจกรรมจะเริ่มต้นที่ 150-350 บาท มีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างดีและยังมีกิจกรรมพายเรือแคนนู นั่งห่วงยางล่องแก่งไปตามเส้นน้ำในสวนผึ้งด้วย การเดินทางคลิกที่นี่
13. สวนผึ้งออร์คิด
เอาใจสาวๆที่ชื่นชอบความสวยงามของกล้วยไม้กันบ้างถ้าใครที่อยากมาเดินเที่ยวชมสวนถ่ายรูปกับดอกไม้หรือเลือกหากล้วยไม้ พันธุ์หายากว่ะไปปลูกที่บ้าน ควรแวะมาอย่างยิ่ง เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 8.00น.-17.30 น. ที่นี่มีกล้วยไม้ให้เลือกมากกว่า 20 สายพันธุ์ เช่น กล้วยไม้สกุลแวนด้า ฟ้ามุ่ย ฟาแลน แอสโคเซนด้า การเดินทางคลิกที่นี่
14. จุดชมวิวห้วยคอกหมู
ยกให้เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่น่ามาเยือน หากมาสวนผึ้งจะต้องแวะมาเช็คอิน เพราะจะได้ขึ้นมาชมวิวบนสุดเขตแดนสยาม และเห็นชายแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านที่สุดแสนจะอลังการ ที่นี่อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ช่วงเช้าอากาศดีกลุ่มหมอกลงจัด และยังนิยมเป็นลานกางเต็นท์ แคมป์ปิ้งเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศป่าและขุนเขา ตอนกลางคืนเห็นดาวชัดและสวยงามมาก จึงเป็นอีกไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวนิยม นั่งรถจนขึ้นมาได้สัมผัสกับบรรยากาศที่อลังการ นอกจากนี้ยังมีจุดสำคัญ ๆ เช่น ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ของกองร้อยทหาร ป่าไผ่ อุโมงค์ต้นไม้และยังมองเห็นเทือกเขาตะนาวศรีได้อย่างสวยงาม พร้อมกับชมวิวพระอาทิตย์ตกดินแบบเก๋ ๆ การเดินทางคลิกที่นี่
15. โป่งยุบหุตายน
ปิดท้ายกันที่ความงดงามแบบธรรมชาติสร้างสรรค์ ที่นี่เป็นสถานที่เที่ยวแบบลับ ๆ ในสวนผึ้ง โดยโป่งยุบหุตายนเกิดจากน้ำกัดเซาะดินเป็นเวลานานหลายร้อยปี และดินก็ยุบตัวลงมาอัดแน่นจนเกิดเป็นรูปร่างแปลกประหลาด คล้ายกำแพงเมืองล้อมรอบ บรรยากาศมองเผิน ๆ เหมือนพีระมิดอียิปต์กลางทะเลทราย นักท่องเที่ยวนิยมเข้ามาเดินชมถ่ายรูป และชมความงามของก้อนหิน ที่แต่ละจุดรูปร่างไม่เหมือนกัน มีค่าเข้าชมบำรุงสถานที่เริ่มต้นที่ 30-50 บาท หากมาเที่ยวเป็นหมู่คณะสามารถแจ้งก่อนเข้าชมได้ล่วงหน้า เปิดให้บริการเวลา 06.00 น.- 18.00 น. การเดินทางคลิกที่นี่
ชื่นชอบกันไหมเอ่ยกับ 15 สถานที่ท่องเที่ยวสวนผึ้ง ซึ่งจะมีทั้งสวนสัตว์สวนสนุกแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่จะช่วยเติมเต็มความสุขในวันหยุดและวันพักผ่อน หากใครว่าง ๆ และยังไม่มีแพลนจะไปเที่ยวที่ไหน วันเสาร์-อาทิตย์นี้ ก็ลองแวะมาเที่ยวสวนผึ้งกันได้เลยนะ