รีวิวเที่ยวดอยสกาดแบบฟินๆ หากคุณเบื่อแล้วป่าปูน อยากดูความสมบูรณ์ของป่าจริง มาดอยสกาด จัวหวัดน่าน

ใครที่กำลังเบื่อความวุ่นวายในเมือง เสียงรถ เสียงคน หนวกหูไปหมด วันหยุดทั้งทีก็อยากเข้าไปคลุกคลีกับธรรมชาติ ไหนยกมือหน่อยสิ ? หากยังไม่มีแพลนหรือนึกไม่ออกว่าจะไปปักหมุด หยุดเวลากับธรรมชาติ ณ ที่แห่งใด ทางไปมายังของเรา ไปมาแล้ว จึงอยากขอแนะนำท่านทั้งหลายว่า ให้ไปที่ดอยสกาด จังหวัดน่าน เพราะที่นี่ธรรมชาติของเขาสวยงามจริงๆ โดยไม่ต้องแต่งเติมสิ่งใดๆเข้าไปเลยสักนิด 

ขอบคุณภาพจากกลุ่มดอยสกาดน่าน

ก่อนจะพูดถึงดอยสกาดน่านที่อยู่เบื้องบนนั้น อยากจะบอกว่าระหว่างทางขึ้นนั้น ก็สวยงามไม่แพ้กัน แม้เส้นทางจะคดเคี้ยวเลี้ยวไปมา แต่สองข้างทางนั้น ทำให้เราได้เห็นกับวิถีชีวิตของชาวบ้านดอยสกาด และท้องนาอันเขียวขจี ซึ่งแน่นอนว่าการทำนาของชาวดอยสกาดนั้นต้องเป็นนาขั้นบันได้ เนื่องจากสภาพผืนดินเป็นเขาเป็นดอยนั่นเอง รวมถึงต้นไม้นานาพันธุ์ที่จะได้เห็นอีกด้วยมีทั้งต้นเล็กๆที่เพิ่งออกมาเผชิญกับโลก และต้นใหญ่ๆที่อยู่เคียงคู่ดอยสกาดมานานแล้วหลายสิบปี บางต้นก็อายุรุ่นราวคราวเดียวกับทวดๆของพวกเรานั่นแหละ 
ขอบคุณภาพจากกลุ่มดอยสกาดน่าน

การมาที่นี่ขอการันตีว่าฟินสุดๆแน่นอน สำหรับคนที่ชอบธรรมชาติแบบสดๆ เพราะเมื่อตื่นเช้าขึ้นมาสิ่งแรกที่จะได้สัมผัส คือ ทะเลหมอก บางวันมีมาก บางวันมีน้อย ก็แล้วแต่สภาพอากาศ ณ ช่วง เวลานั้น อีกอย่างที่จะได้เห็นความสวยงามจากธรรมชาติในยามเช้า คือ พระอาทิตย์ที่กำลังขึ้น ค่อยๆโผล่เส้นขอบโค้งมาจากหลังเขาหรือหลังดอยตามที่ชาวเหนือนิยมเรียกกัน ช่วงเวลานั้นจะสวยงามและโรแมนติกเอามากๆ หากมีแพลนจะขอใครแต่งงาน มาขอกันที่นี่ถือว่าไม่เลวเลยนะ และคงจะเป็นความประทับใจที่ทั้งสองจะไม่ลืมเลือน 
ขอบคุณภาพจากกลุ่มดอยสกาดน่าน

ขอบคุณภาพจากกลุ่มดอยสกาดน่าน

หากชมวิวจนอิ่มเอมเปรมใจแล้ว ขอแนะนำว่าให้แวะจิบกาแฟสักแก้วตรงระเบียงไม้ที่ยื่นออกไปในอากาศ จะยืนดื่มรับลมชิวๆ หรือนั่งห้อยขาตรงบาร์ก็ได้ สูดทั้งอากาศบริสุทธิ์พร้อมกับสูดกลิ่นกาแฟอันหอมๆไปพร้อมๆกันได้ ฟินมาก ฟินกว่าการนั่งกินกาแฟในเมืองหลายเท่าตัวเลย เพราะมันเป็นบรรยากาศธรรมชาติแท้ๆ ไม่ปรุงแต่ง ที่สำคัญทางร้านกาแฟนั้น สร้างมาจากไม้เป็นหลัก เน้นการใช้ไม้แท้ๆ ทั้งสีและรูปแบบนั้นทำให้เข้ากับสภาพแวดล้อมท่ามกลางธรรมชาติเป็นอย่างดี ดูกี่ทีก็ช่างเข้ากันกับธรรมชาติรอบๆดอยสกาดเหลือเกิน แถมยังสามารถเป็นฉากหลังถ่ายรูปเก๋ๆ แนววินเทจ ได้ดีอีกด้วย เพราะบริเวณร้านกาแฟตกแต่งด้วยโคมไฟล้านนาย้อนยุคนอกจากที่กล่าวมาแล้วยังมีของดีอย่างการดริปกาแฟด้วยฝีมือตัวเองให้ลองทำอีกด้วย เพลิดเพลินมากไม่กลัวว่าการดริปกาแฟดื่มเองจะทำให้รสชาติิออกมาไม่ดีสู้กับมืออาชีพนะ เพราะที่นี่คุณสามารถถามพนักงานหรือเจ้าขอร้านกาแฟได้ และต้องบอกเลยว่าเมล็ดพันธุ์กาแฟของเขามีแต่ดีมีคุณภาพทั้งนั้น เป็นไปได้อยากมากที่รสชาติจะออกมาไม่ดีขอบคุณภาพจากกลุ่มดอยสกาดน่าน

หรือหากเกิดอาการหิวขึ้นมาก ต้องการอาหารมื้อหลักรองท้อง บนดอยสกาดมีร้านจำหน่ายอาหารให้เลือกอยู่ไม่น้อย ทั้งอาหารเมืองหรืออาหารเหนือ อาหารท้องถิ่นของชาวดอยสกาด ตรงนี้แล้วแต่ท่านเลยว่าจะกินร้านไหน เมนูอะไร เพราะรสชาติอร่อยถูกใจทุกร้าน ทุกเมนนูสนนในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป เจ้าของร้านเป็นกันเอง ยิ้มแย้มตลอด ช่างพูดช่างเจรจา อัธยาศัยดีมากๆ ที่สำคัญจุดการนั่งทานอาหารนั้น มีวิวสวยๆให้ชมเช่นเคย 
ขอบคุณภาพจากกลุ่มดอยสกาดน่าน  

หลังจากนั้นท่านจะไปเดินชมนกชมไม้ก็ได้ตามใจชอบเลย หรือจะเดินจะปั่นจักรยานไปตามเส้นทางธรรมชาติก็ไม่ว่ากัน แต่อยากบอกว่าให้รีบกลับมาบนยอดดอยในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ใกล้ตกดินนะ เพราะความสวยงามของพระอาทิตย์ตกนั้นเกินจะบรรยายจริงๆ ท้องฟ้าจะไล่สี เสมือนจิตรกรมากฝีมือกำลังปัดพู่กันลงสีไล่ระดับไปมา นี่แหละหนาที่เขาว่ากันว่าธรรมชาติสร้างสรรค์สิ่งสวยงามได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจเสมอ ถ้าถามว่าช่วงเวลานี้ควรจะทำอะไรบ้าง ต้องบอกเลยว่า ให้ทำในสิ่งที่ชอบ เช่น จิบเบียร์เบา ดีดกีต้าร์ร้องเพลง แต่ก็อย่าเสียงดังหรือดึกจนเกินไปนะ และควรเมาแบบพอสนุก อย่าเมาจนขาดสติ เพราะหากตกเขาคือมา ไม่มีใครคว้าคุณทันแน่ๆ หรือหากจะตั้งเตาหมูกระทะ เม้าท์มอยกับเพื่อนฝูงก็ดีใช่น้อยเลยล่ะ หรืออาจจะบอกรักใครก็ไม่ว่ากัน เพราะบรรยากาศตอนนั้นดีมาก จริงๆ เต็มร้อยให้ร้อย เต็มล้านให้ล้าน   
ขอบคุณภาพจากกลุ่มดอยสกาดน่าน 

ดอยสกาดเป็นดอยที่น่ามาเยือนมาก เพราะว่าธรรมชาติของที่นี่ยังสมบูรณ์ คนยังไม่แห่มาเที่ยวจนล้น จนเสียบรรยากาศสักเท่าไหร่ ส่วนใครมาเที่ยวดอยสกาด ทางเราอยากขอความร่วมมือให้รักษาความสะอาด นำขยะขึ้นไปเท่าไหร่ ต้องนำขยะกลับมาทิ้งให้ถูกที่ด้วยนะ หรือหากเจอขยะของใครตกหล่น หากไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็ช่วยเก็บคนละชิ้นสองชิ้นก็ยังดี ไม่ต้องไปคิดว่าเป็นขยะที่เกินมาจากใคร แต่ให้คิดว่าธรรมชาติตรงนั้นเสมือนเป็นสมบัติอันมีค่าของเรา หากคิดและทำได้แบบนี้หลายๆคน เชื่อเถอะว่าธรรมชาติจะอยู่เคียงคู่ และคอยบำบัดเรายามเหนื่อยล้า ที่อยากจะแนะนำเพิ่มเติมอีกอย่าง คือ พกโลชั่นกันยุงมาด้วยนะ และพกเสื้อผ้าหนาๆ เอาไว้ใส่ยามค่ำคืนด้วยหละ เพราะว่าอากาศตอนกลางคืนค่อนข้างเย็น  

ราคา 
ต้องบอกก่อนว่า ราคาค่าเข้าไม่มี เข้าฟรีทุกคน มีแต่ค่าที่พักและอาหารที่ต้องจ่าย ก็แล้วแต่ว่าจะพักกับที่พักใด ที่พักมีทั้งแบบเต้นท์และแบบเป็นหลัง นอนพื้น นอนฟูก ก็แล้วแต่จะเลือกกันตามงบประมาณและความชอบ ส่วนราคาที่พักนั้นมีตั้งแต่หลักร้อยยันหลักพัน ความสะดวกสบายก็ย่อมแตกต่างกันไป แต่ที่ได้เท่ากันแน่นอนคือเรื่องของบรรยากาศดอยสกาด
เวลาทำการ
ทางดอยสกาดไม่ได้กำหนดเวลาเปิด-ปิดตายตัว เพราะที่นี่เปิดตลอด จะมาตอนไหนก็ได้ แต่ทางเราแนะนำว่าให้มาหน้าหนาวหรือไม่ก็หน้าฝน เพราะช่วงนั้นทะเลหมอกจะออกอวดโฉมอย่างชัดเจนกว่าหน้าอื่นๆ และที่สำคัญไม่ร้อนจนเกินไปด้วย
วิธีการเดินทาง
ง่ายมากๆ หากมีรถส่วนตัวก็สามารถใช้ GPS ของ Google Map ในการเดินทางได้เลย เพราะค่อนข้างแม่นยำ หรือจะซื้อทัวร์หรือจ้างรถขึ้นดอยสกาดก็ทำได้ แต่ขอบอกว่าการเดินทางการด้วยรถยนต์ส่วนตัวนั้นจะสะดวกกว่า เพราะสามารถหยุดถ่ายภาพระหว่างทางได้ แต่ขอเตือนว่าพลขับต้องขับรถเซียนจริงๆ และต้องขับด้วยความไม่ประมาท เนื่องจากทางขึ้นดอยสกาดนั้น มีโค้งเคี้ยวคดไปมาอย่างนับไม่ถ้วน การเดินทางคลิกที่นี่
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Facebook

คุณพึงพอใจกับโพสต์นี้หรือไม่

ให้คะแนนโพสต์

ความพึงพอใจโดยรวม 4.9 / 5. นับคะแนน 78

โพสต์ยังไม่มีคะแนน คุณสามารถเป็นคนแรกที่ให้คะแนนเรา