หากจะมองหาสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯใช้เวลาเดินทางสั้นๆ 2-3ชั่วโมงเราเชื่อว่าหลายๆท่านคงมีตัวเลือกในใจมากมายอยู่แล้วแต่จังหวัดนครนายกเป็นอีกหนึ่งสถานที่ๆเราอยากแนะนำให้ทุกๆท่านมาลองสัมผัสความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เมืองแห่งสายน้ำและขุนเขา นอกจากการเดินทางที่สะดวกสบายแล้วที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและร้านอาหารเด็ดๆให้เลือกอีกมากมาย ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้ในจังหวัดนครนายกมาไว้ถึง15สถานที่ ใครชอบแบบไหนสไตล์ไหนเรามาดูกันเลยค่ะ
อ่านเกี่ยวกับ
ที่พักในนครนายก
ร้านอาหารเจ้าเด็ดนครนายก
ร้านกาแฟ-คาเฟ่น่านั่งนครนายก
ผับ-บาร์แหล่งปาร์ตี้นครนายก
1.น้ำตกช่องลม
น้ำตกช่องลม ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของเขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก หนึ่งในสถานที่ unseen thailand ที่เราไม่คิดมาก่อนว่าจะมีธรรมชาติที่สมบูรณ์และสวยงามขนาดนี้อยู่ใกล้ๆกรุงเทพฯ ลำธารใสๆไหลเอื่อยๆเย็นสบายมากบรรยากาศโดยรอบของน้ำตกช่องลมถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาหินลูกใหญ่สีน้ำตาลเข้มเมฆลอยต่ำและมีหมอกปกคลุมบางๆ สองข้างทางเรียงรายไปด้วยต้นไม้นานาพันธ์สีสันเขียวขจีจะมองไปทางไหนก็ดูสบายตาหรือจะลองสูดอากาศรับกลิ่นไอธรรมชาติให้เต็มปอดก็สดชื่นดี เดินเล่นไปเรื่อยมีความรู้สึกเหมือนกับหลุดเข้าไปอยู่ในเทพนิยาย การเดินทางมาที่น้ำตกช่องลมก็ไม่ยากเพียงแค่นั่งเรือเข้ามาแค่15นาทีก็ถึงจุดหมาย (มีจุดบริการเรือที่เขื่อนขุนด่านปราการชล) การเดินทางคลิกที่นี่
2.เขื่อนขุนด่านปราการชล
เขื่อนขุนด่านปราการชล ตั้งอยู่ที่บ้านท่าด่าน อำเภอเมืองนครนายก มีชื่อเดิมว่าเขื่อนคลองท่าด่านเป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดยาวที่สุดในประเทศไทยและยาวที่สุดในโลก เป็นสถานที่ๆมีความสำคัญกับชาวนครนายกเป็นอย่างมากนอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัด เขื่อนขุนด่านปราการชลยังมีหน้าที่เก็บกักน้ำในช่วงหน้าฝนไว้ใช้ยามหน้าแล้งและป้องกันน้ำท่วม เมื่อเข้ามาถึงบริเวณด้านหน้าเราจะพบกับนักท่องเที่ยวมากมายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกำลังสนุกสนานกับการถ่ายรูปเซลฟี่ แต่จุดที่ไม่ควรพลาดคือจุดชมวิวทางด้านบนเรียกว่าแนวเหนือสันเขื่อน จากแนวเหนือสันเขื่อนสามารถเดินเล่นชมวิวอันสวยงามของตัวเขื่อนได้อย่างเพลิดเพลิน มองไปรอบๆคุณจะมองเห็นตัวเมืองนครนายกและอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้แบบ180องศาจากจุดนี้ นอกจากนี้ยังสามารถเช่าเรือหางยาวเพื่อชมน้ำตกที่อยู่ลึกเข้าไปในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนได้อีกด้วย การเดินทางคลิกที่นี่
3.อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ
อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาพระ อำเภอเมืองนครนายก สร้างขึ้นเพื่อช่วยระบายน้ำจากเขื่อนขุนด่านปราการชล เพราะในสมัยก่อนพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ๆมีน้ำท่วมอยู่บ่อยๆ อ่างเก็บน้ำห้วยปรือเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามล้อมรอบไปด้วยภูเขา มีถนนลาดยางตัดทะลุผ่าน ช่วงเวลาเย็นจะพบกับนักปั่นจักรยานจำนวนมาก นอกเหนือจากนี้สถานที่นี้ยังใช้เป็นที่จัดการแข่งขันกีฬาทางน้ำของจังหวัดด้วย ระหว่างที่เดินเล่นหรือปั่นจักรยานชมวิวก็จะพบกับนักกีฬาเรือกรรเชียง เรือแคนู เรือใบ กำลังฝึกซ้อมกันอย่างขะมักเขม้น ไฮไลท์หลักที่ไม่ควรพลาดคือช่วงเวลาเช้ามืด เตรียมกล้องสวยๆมาถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ดวงโตๆค่อยๆเคลื่อนผ่านขอบน้ำ ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างช้าๆสาดแสงสีทองอร่ามไปที่ภูเขาลูกใหญ่ สวยงามจับใจมาก ในช่วงฤดูฝนหลังฝนพรำ ก็จะมีหมอกลอยปกคลุมไปทั่วอ่างเก็บน้ำ บรรยากาศเกินคำบรรยายจริงๆ สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปมาที่นี่การันตีว่าได้รูปสวยๆกลับไปด้วยแน่นอน การเดินทางคลิกที่นี่
4.น้ำตกวังตะไคร้
ขอบคุณภาพจาก
น้ำตกวังตะไคร้ หรือจุมภฏ-พันธุ์ทิพย์อุทยานฯ ตั้งอยู่บนถนนสายนครนายก-นางรอง ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของลำธาร 2 สายคือลำธารคลองมะเดื่อจากน้ำตกเหวกระถินกับลำธารคลองตะเคียนจากน้ำตกแม่ปล้อง 2ลำธารนี้ไหลมาบรรจบกันลักษณะของน้ำตกที่นี่จะมีแอ่งเป็นวังน้ำ เหมาะสำหรับการลงเล่นน้ำ บริเวณด้านข้างธารน้ำจะพบกับต้นตะไคร้น้ำและตะไคร้หางนาค ในส่วนของกิจกรรมนอกจากการลงเล่นน้ำและถ่ายรูปสวยๆแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมายไม่ว่าจะเป็นล่องแก่งแพยางหรือล่องแก่งด้วยห่วงยาง ความสวยงามของที่นี่นอกจากความใสของน้ำตกแล้วที่นี่ยังมีพันธ์ไม้นานาพรรณสีสันสวยงามปกคลุมไปทั่วอุทยานให้ความรู้สึกร่มรื่นมาก ส่วนใครที่ชอบไม้ดอกสวยๆภายในอุทยานฯยังมีสระบัวที่ชื่อว่าสระปทุม เป็นสระบัวขนาดใหญ่แบ่งเป็น2ฝั่ง มีทางเดินลัดตรงกลาง ฝั่งหนึ่งจะเป็นพันธุ์ดอกบัววิคตอเรีย และอีกฝั่งมีบัวหลากชนิดมากกว่า 200 สายพันธุ์ให้เลือกชม การเดินทางคลิกที่นี่
5.น้ำตกแก่งสามชั้น
น้ำตกแก่งสามชั้น ตั้งอยู่ในตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก น้ำตกมีลักษณะพิเศษเป็นแก่งหินซ้อนกัน ในฤดูแล้งหินจะโผล่พ้นน้ำขึ้นมาค่อนข้างเยอะและจะจมหายไปในช่วงฤดูน้ำหลาก เหมาะสำหรับการมาแคมป์ปิ้งพักผ่อนในช่วงวันหยุดกับครอบครัว ลงเล่นน้ำเย็นๆคลายร้อน นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่นอกจากครอบครัวน่ารักๆแล้ว ก็ยังเป็นสถานที่พบปะของนักล่องแก่งจากทั่วประเทศ สำหรับชื่อแก่งที่จะต้องล่องผ่านได้แก่ 1. แก่งโขดคุ้ง มีลักษณะเป็นโขดหินโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำในช่วงฤดูร้อนและจมลงไปในน้ำยามฤดูฝน 2. เกาะแก่ง มีลักษณะเช่นเดียวกันกับแก่งโขดคุ้ง 3. แก่งหินสามชั้น แก่งสามจะมีลักษณะเป็นชั้นหินสามชั้น เทลาดเอียงลงมาเป็นขั้นบันได ระยะทางยาวประมาณ 50 เมตร กระแสน้ำจะไหลวนลงมากระทบกับโขดหินน้อยใหญ่ที่จมอยู่ใต้น้ำ จนเกิดเป็นลูกคลื่นสูงประมาณหนึ่งเมตร นอกจากที่นี่จะขึ้นชื่อเรื่องความเชี่ยวความแรงของน้ำแล้ว แก่งหินก้อนใหญ่ๆที่ก่อตัวเป็นชั้นๆก็เป็นอุปสรรค์ที่สร้างความท้าทายและสร้างความน่าตื่นเต้นให้นักล่องแก่งเป็นอย่างมาก การเดินทางคลิกที่นี่
6.น้ำตกนางรอง
น้ำตกนางรอง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต.หินตั้ง อ.เมืองนครนายก น้ำตกนางรองเป็นน้ำตกขนาดกลางแอ่งน้ำไม่ลึกมากลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ เวลาที่เหมาะที่สุดในการมาเที่ยวคือช่วงปลายฝนต้นหนาว บางช่วงหากที่น้ำตกมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวจะมีเจ้าหน้าที่ติดป้ายประกาศห้ามลงเล่นน้ำ การชมวิวของน้ำตกท่านสามารถเดินไปเรื่อยๆตามทางถนนลาดยางเดินขึ้นด้านบนประมาณ 200 เมตร ก็จะพบกับสะพานทางขวามือพาดผ่านน้ำตก เป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปเป็นอย่างมาก เดินเล่นเข้าไปจนสุดถนนก็จะเจอบ้านพักจอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่ท่านผู้หญิงละเอียดได้สร้างขึ้น ภายในน้ำตกนางรองมีอาหารและเครื่องดื่มคอยบริการให้กับนักท่องเที่ยวพร้อมทั้งมีบริการบ้านพักสำหรับครอบครัวด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากในจังหวัดนครนายก การเดินทางคลิกที่นี่
7.น้ำตกสาริกา
น้ำตกสาริกา เป็นน้ำตกในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งอยู่ ต.สาริกา อ.เมืองนครนายก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ไหลตกจากหน้าผาทั้งหมด 9 ชั้น โดยผาที่สูงที่สุดประมาณ 200 เมตร ในแต่ละชั้นจะมีชั้นหินธรรมชาติรองรับน้ำเป็นแอ่งขนาดเล็ก น้ำไม่ลึกมากสามารถเล่นน้ำหรือเช่าห่วงยางมานอนแช่น้ำได้สบายๆ บริเวณใกล้เคียงมีถ้ำสาริกาเป็นสถานที่ที่ อาจารย์มั่น ภูริฑตฺโต เคยมาปฏิบัติธรรม ทางขึ้นของน้ำตกสาริกาจะมีศาลเจ้าพ่อปลัดจ่างและเจ้าแม่สาริกา ที่ชาวนครนายกให้ความเคารพนับถือ สามารถสักการะเพื่อความเป็นศิริมงคลกับชีวต ด้านล่างของ น้ำตกสาริกา ก็จะมีบริการห้องอาบน้ำ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกต่างๆ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวคือช่วงปลายฝนต้นหนาว เป็นช่วงที่มีน้ำเยอะและน้ำใสไหลเย็นเหมาะกับการมาเล่นน้ำคลายร้อน การเดินทางคลิกที่นี่
8.คลองมะเดื่อ
คลองมะเดื่อ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้มากที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดนครนายก ยังคงความสมบูรณ์ของป่าไม้และลำธาร สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆเช่นไฟฟ้า น้ำประปาหรือแม้แต่สัญญาณอินเตอร์เน็ตหาด้ยาก ถ้าจะมาท่องเที่ยวหาความสะดวกสบายให้มองข้ามที่นี่ไปได้เลย คลองมะเดื่อมีทั้งหมด 5 คลอง แต่สถานที่ให้พักและกางเต็นท์มีแค่ 3 คลองในส่วนของคลอง 4 และคลอง 5 เป็นเขตหวงห้ามของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ห้ามรถทุกชนิดเข้าไป ยกเว้นเดินเท้าหรือปั่นจักยานเข้าไป ลำธารคลองมะเดื่อไหลลงมาจากป่าเขาใหญ่ต้นน้ำที่อยู่ลึกเข้าไป คลอง 1 ถือเป็นด่านแรกในการเข้าคลองมะเดื่อ น้ำที่นี่เชี่ยว ไหลแรงและลึกสุดในบรรดา 3 คลอง ถ้าระดับน้ำไม่มาก รถกระบะธรรมดาสามารถขับข้ามได้ คลอง 2 อยู่ห่างจากคลอง 1 ประมาณครึ่งกิโลเมตร เป็นคลองที่มีลานกว้าง ตลิ่งไม่สูงน้ำไม่แรงมากและตื้นกว่าทุกคลอง คนนิยมมาที่นี่กันเป็นจำนวนมาก มีร้านค้า มีห้องน้ำรวม มีแคร่ให้เช่า บ้านพักและลานกางเต็นท์ การมาเที่ยวคลองมะเดื่อต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมเพราะที่นี่เหมาะกับสายลุย การเดินทางค่อนข้างลำบากแต่ถ้าลองมาสัมผัสความลำบากสักครั้งคุณอาจจะติดใจก็ได้นะ การเดินทางคลิกที่นี่
9.วัดพราหมณี(วัดหลวงพ่อปากแดง)
วัดพราหม์มณี หรือ วัดหลวงพ่อปากแดง เป็นวัดเก่าแก่สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕ มีพระประธานศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพนับถือกันอย่างหลวงพ่อปากแดง องค์หลวงพ่อปากแดงเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ สร้างด้วยโลหะสัมฤทธิ์หน้าตักกว้าง 49 นิ้ว สูง 1 เมตร เป็นศิลปะสมัยล้านช้าง จีวรเป็นลายดอกพิกุล พระโอษฐ์ แย้มทาสีแดง ชาวบ้านจึงเรียกว่าหลวงพ่อปากแดง เชื่อกันว่าหลวงพ่อปากแดงเป็นพระพุทธรูปพีน้องกับหลวงพ่อพระสุกและหลวงพ่อพระไสที่ประดิษฐานอยู่ที่ จ.หนองคาย ในปัจจุบันได้อันเชิญมาจากนครเวียงจันทน์ ประเทศลาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ความเชื่อของชาวบ้านทั่วไปที่มาสักการะบูชาหลวงพ่อปากแดงจะขอพรกับเกี่ยวกับโชคลาภ การเสี่ยงดวงและเรื่องตำแหน่งหน้าที่การงาน ทำให้มีนักเสี่ยงดวงจากทั่วทุกสารทิศมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ภายในวัดนอกเหนือจากการกราบไหว้ขอพรสิ่งศักสิทธิ์แล้ว ยังมีตลาดนัดการเกษตรซึ่งเป็นการรวมตัวกันของเกษตรกรนำสินค้าราคาถูกและคุณภาพดีมาจำหน่ายให้ทุกๆท่านได้เพลินเพลินเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวในวันพักผ่อน การเดินทางคลิกที่นี่
10.ซุ้มป่าไผ่ วัดจุฬาภรณ์วนาราม
ซุ้มป่าไผ่ วัดจุฬาภรณ์วนาราม ตั้งอยู่ในตำบลบ้านพริก อำเภอบ้านนา ซุ้มต้นไผ่อยู่บริเวณด้านหน้าของวัดจุฬาภรณ์วนาราม เป็นอุโมงค์ไผ่ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ต้นไผ่เอียงเข้าหากันทอดยาวประมาณ 800 เมตร จนกลายเป็นอุโมงค์ทางเดิน ตอนเช้าและตอนเย็นในช่วงที่มีแสงอาทิตย์ลอดผ่านต้นไผ่จะให้ความรู้สึกที่สวยงามมาก หลายๆคนที่เคยมาที่นี่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าซุ้มต้นไผ่ วัดจุฬาภรณ์วนาราม มีความสวยงามไม่แพ้กับป่าไผ่อาราชิยาม่า ในเมืองโตเกียวของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว นอกจากความสวยงามของป่าไผ่แล้ว ภายในวัดยังมีสถาปัตยกรรมโบราณที่มีความโดดเด่นสวยงาม วัดจุฬาภรณ์วนารามเป็นวัดสายธรรมยุตนิกาย เงียบ สงบ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ด้านในอุโบสถมีพระประธานปางมารวิชัย (สมัยสุโขทัย) ทรงเครื่องครึ่งยศ ชื่อพระประธานอยู่ในระหว่างการขอจากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามสถาน สามารถไหว้พระ ทำบุญ เสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตได้ แต่ถ้าใครจะถวายสังฆทานต้องเตรียมมาเอง ทางวัดไม่มีจำหน่ายและไม่ทำสังฆทานเวียน สถานที่แห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินสำคัญของจังหวัดนครนายกเป็นจุดรวมตัวของนักท่องเที่ยวที่รักการถ่ายภาพและนักท่องเที่ยวสายบุญที่ชอบความสงบ ร่มรื่น การเดินทางคลิกที่นี่
11.สะพานทุ่งนามุ้ย
สะพานทุ่งนามุ้ย ตั้งอยู่ที่ ต.สาริกา อ.เมืองนครนายก สะพานทุ่งนามุ้ย เป็นสะพานไม้ไผ่ที่ทอดยาวคดเคี้ยวเป็นรูปตัวเอส ความยาวประมาณ 150 เมตร พาดผ่านบนท้องนาสีเขียวขจีกว่า 2 ไร่ สมัยก่อนชาวบ้านเรียกว่าแถวนี้ว่าทุ่งนามุ่ย เพราะบริเวณนี้เต็มไปด้วยดงหมามุ่ย เวลาน้ำท่วมชาวบ้านสัญจรลำบาก จึงเกิดไอเดียว่าทำสะพานไม่ไผ่ให้คนเดินทางได้สะดวกขึ้นแต่พอสร้างสะพานไม้ไผ่เสร็จมีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักในรีสอร์ท เห็นว่าสวยงามก็นำไปบอกต่อปากต่อปาก จนกลายเป็นจุดท่องเที่ยววิถีธรรมชาติแห่งใหม่ กิจกรรมหลักนอกจากการถ่ายรูปสวยๆและเดินเล่นบนสะพานไม้ที่พาดผ่านนาข้าวสีเขียวขจีขนาดใหญ่แล้ว ก็ยังมีอาหารท้องถิ่นและผลผลิตทางการเกษตรไว้บริการนักท่องเที่ยวมากมาย ปัจจุบันสะพานทุ่งนามุ้ยมีการพัฒนาร่วมกันกับกลุ่มชาวบ้านจัดเป็นศูนย์การเรียนรู้ทางการเกษตรเพื่อให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาได้ทั้งความสนุกและความรู้กลับไป การเดินทางคลิกที่นี่
12.พ.ฟาร์ม เมล่อน
พ.ฟาร์ม เมล่อน ตั้งอยู่ที่ ตำบลเขาเพิ่ม อำเภอบ้านนานครนายก ฟาร์มเมล่อนปลอดสารพิษแห่งเดียวในจังหวัดนครนายก เปิดให้เข้าชมฟรีไม่เสียค่าบริการ จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เน้นผลผลิตปลอดสารพิษ โดยภายในฟาร์มมีเมล่อนคุณภาพดีไว้รองรับนักท่องเที่ยวให้มาเลือกซื้อกันได้อย่างสบายใจ นอกเหนือจากเมล่อนลูกโตๆ รสชาติหวานหอม กรอบนอก นุ่มใน ที่นี่ยังมีร้านอาหารและเครื่องดื่มรวมถึงของหวานอร่อยๆ ที่แปรรูปจากเมล่อนให้ทุกท่านเลือกชิม ไม่ว่าจะเป็น ไอศครีมรสเมล่อน สาคูเมล่อน ซาลาเปาเมล่อน เป็นอีกสถานที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ ก่อนการเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่อื่นๆ การเดินทางคลิกที่นี่
13.ตลาดเท่งเถิดเทิง ไนท์วินเทจ
ตลาดเท่งเถิดเทิง ไนท์วินเทจ แหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืนแห่งใหม่ของจังหวัดนครนายก ของดีมากมายถูกรวบรวมไว้ที่นี่ทั้ง อาหาร เครื่องดื่ม ร้านแฮงค์เอาท์ เป็นศูนย์รวมของวัยรุ่นและขาช็อปมากมาย เดินชมโดยรอบโซนเสื้อผ้าแฟชั่นสวยงามทั้งมือ1 มือ2 มีให้เลือกมากมาย เดินไปเดินมาเผลอแป็ปเดียวกระเป๋าตังค์อาจจะเบาได้ โซน food truck และ street food ก็มีอาหารบริการมากมายทั้งของคาวและของหวาน รสชาติอร่อยและหน้าตาของอาหารน่ารับประทานมาก โซนสุดท้ายคือโซนแฮงค์เอาท์ ร้านเหล้าเท่ๆเรียงรายกันมากมายแต่ละร้านตกแต่งได้สวยมีสไตล์ เฟอร์นิเจอร์วินเทจดูดีมาก เมื่อกระทบกับแสงไฟสีเหลืองนวล เหมาะสำหรับค่ำคืนวันพักผ่อน สบายๆ ที่นี่เปิดให้บริการเฉพาะวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 18.00-24.00 น. การเดินทางคลิกที่นี่
14.ร้านบะหมี่โหน่ง ชะชะช่า
ร้านบะหมี่โหน่ง ชะชะช่า ร้านตั้งอยู่บนถนน รังสิต-นครนายก ตรงข้ามแยกสะพาน จปร. ขับรถผ่านมองเพลินๆอาจจะไม่คิดว่านี่คือร้านก๋วยเตี๋ยว การตกแต่งสไตล์วินเทจ มีรถโบราณ เฟอร์นิเจอร์ไม้เก่าแก่และตัวการ์ตูนดังๆมากมายช่างดูลงตัว มีที่จอดรถกว้างขวางด้านหน้าไว้รองรับ เข้ามาภายในร้านก็จะพบกับร้านก๋วยเตี๋ยวที่ตกแต่งไม่เหมือนใคร เมนูอาหารถูกจัดเรียงไว้เพื่อรอต้อนรับนักชิมและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศ สามารถหยิบเมนูมาเลือกอาหารและรสชาติตามที่ตัวเองต้องการได้เลย บรรยากาศภายในก็โปร่งโล่งสบาย แม้ว่าจะมีลูกค้าหนาแน่นก็นั่งได้แบบไม่อึดอัด บริเวณรอบๆร้านสามารถเดินถ่ายรูปกับมุมสวยๆได้อย่างเพลิดเพลิน วันไหนโชคดีก็จะได้พบกับซุปเปอร์สตาร์ตลกอย่างคุณ โหน่ง ชะชะช่า เจ้าของร้าน ออกมาเสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวสูตรเด็ดของทางร้านให้ชิมด้วยตัวเอง พร้อมทั้งให้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งเราได้มาเยือนที่นี่ การเดินทางคลิกที่นี่
15.ตลาดโรงเกลือ
ตลาดโรงเกลือ ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 3049 เลยจากสี่แยกบุ่งกระเบา (ตัดกับถนนเลี่ยงเมือง) ไปประมาณ 2 กิโลเมตร ตลาดโรงเกลืออยู่ติดกับวัดพราหมณี(วัดหลวงพ่อปากแดง) เป็นสถานที่ขายสินค้าต่างๆมากมาย ตลาดโรงเกลือนครนายกค่อนข้างเล็กและมีพื้นที่จำกัด ร้านขายของแบ่งออกล็อกๆ แต่ข้อดีคือไม่ต้องตากแดดให้ร้อนเพราะอยู่ตลาดอยู่ในร่มเกือบทั้งหมด สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นพวกกระเป๋า ร้องเท้า ต่างๆ ราคาก็แตกต่างกันไปแต่ละร้าน ที่นี่ไม่เน้นของมือสองส่วนมากเป็นของใหม่ ราคาขายถือว่าแพงกว่าตลาดโรงเกลือที่จังหวัดสระแก้ว แต่ก็ต่อราคากันได้ตามความสามารถ บางร้านลดลงแบบเกือบครึ่งเลยก็มี ราคาโดยรวมถือว่าถูกกว่าที่ขายกันในเมืองค่อนข้างเยอะ ถ้าตาดีเลือกดี ก็ได้ของดีที่ราคาประหยัดมากๆ สำหรับขาช็อปควรเตรียมสตางค์ไว้ให้พร้อมและที่สำคัญแนะนำให้เตรียมหน้ากากกันฝุ่นไปด้วย จะทำให้ให้การช้อปของคุณไม่สะดุดเพราะที่นี่ฝุ่นค่อนข้างเยอะ การเดินทางคลิกที่นี่