เชียงใหม่เป็นจังหวัดยอดนิยม และเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว วัฒนธรรม อาหาร ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก เนื่องจากผู้คนในเชียงใหม่มักจะเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว ยิ้มแย้มเก่ง และวัฒนธรรมของที่นี่ในหลายด้านๆนั้น มีเสน่ห์ ดูอ่อนช้อย เย้ายวนชวนให้หลงไหลในความเป็นล้านนา และสถานที่ซิกเนเจอร์ของเชียงใหม่ที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลย ก็คือ ดอยสุเทพ เพราะดอยสุเทพ ถือเป็นสถานโบราณที่อยู่คู่กับชาวล้านนามาตั้งแต่สมัยพญากือนาแล้ว พญากือนาได้ทำการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมารประดิษฐานเอาไว้ ณ ที่แห่งนี้ ตามการเสี่ยงทายจากช้างมงคลนั่นเอง
ขอบคุณภาพจากวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
ก่อนจะพาไปเที่ยมชมดอยสุเทพแบบจัดเต็ม ทางเราขอกล่าวถึงข้อมูลดอยสุเทพสักนิด เพื่อเป็นเกร็ดความรู้เสริมเล็กๆน้อยให้กับคุณผู้อ่าน ดอยสุเทพมีความสูงจากน้ำทะลประมาณหนึ่งพันเมตรกว่าๆ มีระยะทางจากตีนดอยไปสู่เบื้องบนของดอยสุเทพประมาณ 13 – 14 กิโลเมตร มีโค้งคดเคี้ยวไปมาหลายโค้งอยู่ด้วยกัน แต่จะมีอยู่หนึ่งโค้งที่เรียกว่า “โค้งสปิริต” ก่อนจะถึงตัววัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร โค้งนี้จะมีความชันกว่าโค้งไหนๆทังสิ้น ทำให้การเดินขึ้นไปนั้นต้องออกแรงมากกว่าโค้งอื่นๆ จึงน่าจะเป็นที่มาของชื่อโค้งดังกล่าวนั่นเอง ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของดอยสุเทพนั้น ทำให้ชาวพุทธเดินทางมากราบไหว้อย่างไม่ขาดสาย ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2478 ดอยสุเทพได้รับการประกาศเป็นโบราณสถานสำหรับชาติอย่างเต็มตัว เอาล่ะ คราวนี้มาดูกันว่า เมื่อมาดอยสุเทพแล้วนั้น ควรจะต้องไม่พลาดกราบไหว้สิ่งศักดิื์สิทธิ์ ณ จุดใดบ้าง
ดอยสุเทพเป็นสถาน เป็นสถานที่รวบรวมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวเหนือมานานหลายร้อยปี แถมยังเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวเชียงใหม่อีกด้วย ขอกระซิบบอกเอาไว้ว่ารับรู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ได้ตั้งแต่ตีนดอยสุเทพ เพราะมีรูปหล่อคูบาศรีวิชัย เกจิพระอาจารย์ดังของภาคเหนือ เป็นที่นับถือทั่วประเทศ ว่ากันว่าใครมีจิตบริสุทธิ์ไปขอพร จะสมหวัง จริงแท้แค่ไหนนั้น ทางเราฟันธงร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ อยากให้หลายๆคนไปลองสักการะขอพรท่านเองกับตัวดีกว่า บริเวณรูปหล่อหรืออนุเสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย มีร้านค้าดอกไม้ พวงมาลัย ธูป เทียน เรียงรายขายกันหลายร้าน ถูกใจร้านเบอร์ไหนก็ซื้อร้านนั้นได้เลยค่ะ มีการจัดวางบทสวดเอาไว้อย่างเด่นชัด และหลายที่ ถึงตรงนี้ตั้งจิตให้บริสุทธิ์ ท่องคาถา ขอพรที่ปราถนาได้เลยค่ะ
ขอเสริมสักนิดว่าครูบาศรีวิชัย เป็นบุคคลที่มีความสำคัญในการก่อร่างสร้างทางไปสู่วัดตัววัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร โดยครูบาศรีวิชัย ได้ขอแรงจากชาวบ้านที่มีจิตศรัทธามาร่วมด้วยช่วยกันสร้างขึ้นจนสำเร็จ
ห่างจากอนุเสาวรีย์ของครูบาศรีวิชัยไม่ไกลนัก ก็จะเป็นน้ำตกห้วยแก้ว เป็นน้ำตกขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็สามารถให้ความเพลิดเพิลนกับผู้มาเยือนได้ไม่น้อยเลย บริเวณน้ำตกห้วยแก้ว มีหินใหญ่น้อยรองรับสายน้ำที่ไหลลงมาจากที่สูง และรอบๆนั้นล้อมไปด้วยความสมบูรณ์ของต้นไม้น้อยใหญ่ พร้อมด้วยเสียงร้องจองจักจั่นบ้าง นกนานาชนิดบ้าง หากมองลงไปในแอ่งจะพบกับความใสสะอาด มีปลาตัวน้อยๆแหวกว่าย ลัดเลาะซอกหินไปมา
จากนั้นให้ยิงยาวขึ้นไปยังวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารได้เลย ระหว่างคุณจะได้พบกับต้นไม้น้อยใหญ่ และความสมบูรณ์ของป่าข้างทาง นั่งรถขึ้นไปประมาณ 10 – 15 นาทีก็จะถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ก่อนถึงตัววัดร้านค้าจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มอยู่หลากร้านด้วยกัน หากเป็นหน้าหนาวผลไม้สุดนิยมที่คุณจะได้เห็น ก็คือ สตรอว์เบอร์รี่หลากหลายสายพันธุ์นั่นเอง ก็ถึงตัวจริงๆ จะมีบันไดนาคเจ็ดเศียรท้าทายความแข็งแกร่งของขาพกคุณ ซึ่งมีทั้งหมด 306 ขั้น จุดนี้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายภาพด้วยนะ เพราะบันไดมีความสวยงาม และดูเหมือนบันได้ขึ้นสวรรค์อย่างไงอย่างงั้นเลยค่ะ แต่สำหรับใครที่ไม่สะดวกก็สามารถใช้บริการรถรางไฟฟ้าได้นะคะ ค่าบริการอยู่ที่หลักสิบ คนไทยคนละ 20 บาท ส่วนชาวต่างชาติ 50 บาท
เมื่อมาถึงบริเวณวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารแล้ว สิ่งที่จะเห็นตั้งตระหง่านเป็นสง่าสิ่งแรกโดยไม่ต้องสังเกตเลยก็ึคือ เจดีย์ เจดีย์ของที่นี่เป็นทรงเชียงแสน ตามสไตล์ศิลปะล้านนา มีลักษณะเหลี่ยมเป็นชั้นๆตรงฐาน ส่วนยอดนั้นมีลักษณะเป็นเหลี่ยมกลมจวบจนถึงยอด ภายในเจดีย์มีพระบรมสาริกธาตุถูกบรรจุเอาไว้ หากมาถึงแล้วขอแนะนำว่าอย่าลืมที่จะกราบไหว้ เพราะว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์เอามากๆ
จากนั้นแนะนำว่าให้เดินมาตีระฆังและทำบุญ หยอดเหรียญลงบาตร ตามวันเกิดของแต่ละคน ตรงนี้ทางวัดได้ตรียมบทสวดตามกำลังวันเกิดของแต่ละคนมาให้แล้ว ไม่ต้องกลัวว่าจะสวดผิดวัันแต่อย่างใด หากเสร็จสรรพจากการทำบุญตรงนี้แล้ว อยากให้เดินเข้าไปในศาลช้างตรงนี้ถือเป็นซิกเนเจอร์ที่ไม่ควรพลาดเลย เพราะอะไรรู้ไหมเอ่ย? เพราะว่าภายในศาลช้าง จะมีรูปปั้นช้างให้เสี่ยงทาย ก่อนเสี่ยงทายนั้น แนะนำว่าให้อ่านคำแนะนำและท่องคาถาดีๆนะ เพราะวิธีการของชายหญิงจะต่างกัน เขาว่ากันว่าหากเราตั้งจิตอธิษฐานถึงเรื่องราวที่เราอยากทราบเสร็จแล้วนั้น ให้พูดตบท้ายในใจว่า หากเรื่องที่ถามไปจะประสบผลสำเร็จ ขอให้ทำการยกช้างด้วยนิ้วขึ้น และให้ตั้งจิตอธิษฐานเรื่องเดิม และพูดในใจตบท้ายว่า หากเรื่องที่ถามไปนั้นประสบความสำเร็จ ขอให้รอบบนี้ยกช้างไม่ขึ้น และหากทั้งสองรอบออกมาเป็นอย่างที่กล่าวไป ว่ากันว่าส่วนมากจะได้ตามที่ขอ อันนี้ไปลองกันเอาเองนะคะ เพราะเรื่องอธิษฐานของใครของคนนั้นค่ะ นอกจากนี้ยังมีวิธีการเสี่ยงทายอื่นๆอีกด้วยๆนะ
จากนั้นหลังทำบุญหรือทำกิจกรรมภายในวัดเสร็จแล้ว จะออกมาตีระฆัง ก็ได้นะ รู้ไหมว่าการตีระฆังที่วัดนั้นๆ มีความเชื่อแฝงอยู่ เขาว่ากันว่าการตีระฆังนั้นช่วยทำให้เรามีสติ สมาธิ ในการใช้ชีวิตมากขึ้น อีกความเชื่อหนึ่งที่หลายๆวัดให้การยอมรับเลย ก็คือการตีระฆัง หลังทำบุญเสร็จ เพื่อบอกให้เทวดา ฟ้าดิน รับรู้ว่าเราได้มาทำบุญแล้ว เวลามีเรื่องเดือนร้อนอะไรเกิดขึ้นในชีวิต ผลบุญตรงนี้ก็จะส่งให้เราข้ามผ่านอุปสรรคต่างไปได้อย่างมีสตินั่นเอง
หากพึงพอใจกับการเสี่ยงทาย และสักการะพระต่างๆอย่างอิ่มเอมแล้ว ขอแนะนำว่าให้เดินออกมาชมวิว หรือจะเป็นการชมศิลปะรอบๆวัดก็ไม่จืดเลยค่ะ เพราะวัดที่นี่เขามีการผสมผสานและใส่ศิลปะลงไปในการก่อสร้าง ทำให้วัดออกมาดูสวยงาม เสมือนกับภูเขาทองบนชั้นเทพ เพราะตัวของพระธาตุนั้นได้มีการเคลือบทองจังโกเอาไว้ ทำให้ดูเหลืองอร่ามยามต้องแสง และเน้นสร้างแบบล้านนา แต่ไม่ใช่แค่ตอนกลางวันนะที่ดูสวยงาม กลางคืนก็ดูสวยงามเช่นกัน เพราะทางวัดเลือกใช้ไฟที่เข้ากันกับสถาปัตยกรรม
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ทุกภาคการศึกษาใหม่ จะมีการรับน้องขึ้นดอย ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะบอกว่าเป็นประเพณีที่น่าดูมาก เพราะการขึ้นดอยนั้น ใช้การเดินเท้า หรือวิ่งสลับไปมา ลักษณะการวิ่งชาย-หญิง ในคณะจะจับมือกัน เพื่อช่วยกันฉุดดึงให้แต่ละคน ไปถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพให้ได้นั่นเอง นับเป็นประเพณีที่สร้างความสามัคคีได้ไม่น้อยเลยค่ะ
ค่าเข้าชม
– สำหรับคนไทย ฟรี ไม่มีค่า่ใช้จ่าย เว้นแต่ว่าใช้บริการรถไฟฟ้าในการขึ้นสู่ตัววัด
– สำหรับชาวต่างชาตินั้น มีค่าบัตรผ่านทาง เพียง 30 บาทต่อคนเท่านั้น
เวลาทำการ
เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 20.00 น. ทั้งนี้ในช่วงสถานการณ์โควิด แนะนำว่าให้ติดตามความเคลื่อนไหว หรือประกาศบน Facebook หรือโทรฯ 053 -295 – 003
การเดินทาง
ดอยสุเทพตั้งอยู่ที่ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ หรือคุณสามารถเปิดการเดินทางบน Google Map ได้ที่นี่
