ตลาดน้ำอัมพวา เป็นตลาดน้ำทำเลดีอีกที่หนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะอยู่ไม่ไกลจากรุงเทพมากนัก และไม่ได้อยู่ในเมืองจนเกินไป ตลาดน้ำอัมพวาตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรสงคราม ภายในตลาดมีสินค้าละบริการให้เลือกอย่างหบากหลาย แถมมีมุมใ้ถ่ายภาพอีกเพียบ แต่ที่เป็นไฮไลท์สุดขอตลาดนี้เลย ก็คือ การพายเรือชมหิ่งห้อย ค่ำคืนของอัมพวาสว่างไสวไปด้วยไฟดวงน้อยๆจากสัตว์ตัวเล็กๆ มาดูกันเถอะว่า เที่ยวอัมพวาอย่างไรให้อิ่ม ฟินครบ จบในวันเดียว
มาตลาดน้ำอัมพวาทั้งที ต้องใช้เวลาทุกนาทีให้คุ้ม ปกติตลาดน้ำเปิดทำการวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ตลาดน้ำแห่งนี้เป็นสถานที่พักผ่อนที่เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาอย่างจำกัด เพราะใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที (ไม่รวมช่วงเทศกาล) แต่เที่ยวฉบับไปมายังนั้น ได้บริหารเวลาสำเร็จรูปมาให้คุณผู้อ่านแล้ว มาดูกันดีกว่าว่าเที่ยวอัมพวาอย่างไรให้คุ้มในหนึ่งวัน
ทางไปมายัง แนะนำว่าให้ทานอาหารเที่ยงจากบ้านมาให้เต็มพุงซะก่อน จากนั้นรอเวลาและเลือกเที่ยวรถประมาณ 15.00 น. เพราะจะมาถึงตอนตลาดน้ำเปิดพอดี และเมื่อมาถึงตลาดน้ำ แน่นอนว่าคุณผู้อ่านจะเกิดอาการหิวขึ้นมาพอดี จากนั้นให้เดินหาอาหารกิน อาหารของที่นี่มีหลายร้อยเมนูวางขาย คุณผู้อ่านสามารถจับจ่ายได้ตามใจอยาก ตามปากชอบเลยค่ะ มีทั้งการจำหน่ายอาหารบนเรือพาย และบนท้องถนน แนะนำว่าเดินให้เดินทั้งสองที่ จะดีมากค่ะ
แต่ถ้าเป็นคนชอนั่งชมบรรยากาศ แนะนำว่าหาร้านที่มีบาร์ริมน้ำนั่ง เพราะคุณจะได้เห็นวิถีชีวิตของพ่อค้าแม่ขายบริเวณนี้ แถมยังได้ยินเสียงน้ำกระทบฝั่งอีกด้วย เป็นการผ่อนคลายอย่างหนึ่งเลยนะ ยิ่งมีอาหารกับบรรยากาศดีๆที่เรียบง่าย ยิ่งทำให้วันนั้น เป็นวันที่มีความสุขจากสิ่งง่ายๆ นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเลยค่ะ ระหว่างนั้นอาจน้ำกล้องขึ้นมาถ่ายภาพเล่นๆก็ไม่ว่ากัน
เมื่อกินอิ่มดีมีแรงแล้ว สิ่งที่ควรทำต่อไป คือ เดินเท้าชมตลาดน้ำ และล่าท้ามุมถ่ายภาพ เพราะที่นี่มีมุมสวยๆเยอะเอาการ ถ่ายทีลงทั้งปีก็ยังไม่หมดค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาม ทางเราขอแนะนำแต่มุมมหานิยมและมุมสวยๆเท่านั้นนะคะ ที่เหลือคุณผู้อ่านก็ไม่จัดมุม คุมโทนกันเอาเองนะ เริ่มต้นกันที่มุมมหานิยมอย่างสะพานตลาดน้ำอัมพวา เพราะเหนือศีรษะขึ้นไปเล็กน้อย มีป้ายบอกชื่อสถานที่ถึง 3 ภาษาด้วย เป็นสะพานที่ที่ยืนยันว่าคุณมาเยือนตลาดน้ำอัมพวาแล้วจริงๆ
จากนั้นให้เดินไปยังส่วนถนน เพราะว่ามีโลเกชั่นสวยๆอย่างสะพานข้ามแม่น้ำให้ถ่ายภาพด้วย สะพานแห่งนี้มีทางเดินเท้าให้ด้วยนะ ไม่ต้องกังวลว่าจะเดินไปกินพื้นที่บนท้องถนน แต่อย่างไรก็ตามความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ ขึ้นชื่อว่ายืนข้างถนนนั้นไม่ปลอดอยู่แล้วเกินขึ้น ดังนั้นหากจะถ่ายภาพ ให้เล็งจังหวะดีๆและปลอดภัยชัวร์เอาไว้ก่อนนะตากล้องทั้งหลาย
เมื่อเห็นว่าพระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว ให้รีบกลับมาที่ริมคลอง ให้เล็งฝั่งทิศตะวันออก เพราะว่าเวลาถ่ายรูปตอนแสงอาทิตย์สะท้อนกับน้ำ และแสงอาทตย์ตัดกับขอบฟ้า เล่นสีฝีมือเฉกเช่นจิตรกร พร้อมกับฉากหลังคลาสสิกๆของเรือพายหลายลำที่ลอยอยู่เหนือน้ำ สินค้าหลากหลายสีสัน รวมทั้งผู้คนหลากหลายอากัปกริยา ช่วงนี้แหละเป็นช่วงที่ถ่ายภาพได้สวยมาก เพราะแสงของธรรมชาติจะชัดเจนกว่าช่วงอื่นๆ
จะบอกว่าหากมาอัมพวาหน้าเทศกาล ทางตลาดจะมีการประดับประดาตลาดด้วยหลอดไฟสีสันตามจุดต่างๆ ทำให้ตลาดแห่งนี้ดูมีสีสัน และชีวิตชีวา เหมาะแก่การเซลฟี่เอามากๆ หรือหากใครไม่ใช่สายเซลฟี่ก็สามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศที่สวยงามได้ค่ะ
หากคุณตั้งใจมาเที่ยวอัมพวาตอนเทศกาลจริงๆ ทางเราอยากแนะนำให้มาเที่ยวตรงกับเทศกาลลอยกระทง เพราะที่นี่มีการลอยโคมลงน้ำโดยนะ ผู้คนในอัมพวาจะหลั่งไหลมาลอยโคมที่ตลาดน้ำอัมพวาโดยเฉพาะ เพราะที่นี่เป็นจุดที่สะดวกแล้วสวยงามที่สุดแล้ว โคมที่ลอย มีลักษณะเป็นโคมบางๆเล็กๆมีหลายสีให้เลือก ตัวโคมปักลงบนต้นกล้วยผ่าเป็นแว่นเหมือนกับกระทงนั่นแหละ แต่ภายในโคมจะมีการจุดเทียนเอาไว้ ความสว่างของเทียนส่องผ่านโคม ทำให้โคมมีหลายสีสัน บรรยากาศของที่นี่ดูมีเสน่ห์เหลือเกิน
ก่อนจะไปชมหิ่งห้อย อยากให้คุณผู้อ่านแวะซื้อของฝากกันสักนิด เพราะว่าของฝากของที่นี่ล้วนมาจากผลผลิตในชุมชนทั้งนั้น ถือเป็นการอุดหนุนสินค้าของคนไทยกันเอง ของฝากมีเยอะมาก ทั้งหัตกรรม ภาพวาด อาหาร แต่ที่ไม่อยากให้พลาดเลยก็คือลิ้นจี่อัมพวา เพราะว่าของเขาอร่อยจริงๆค่ะ หวานเจี๊ยบ เนื้อกรอบ เม็ดเล็ก ลูกใหญ่ สู้ลิ้นจี่ทางเหนือได้สบายเลย ของเขาดีจนจัดขึ้นเป็นเทศกาลลิ้นจี่เชียวนะ
เอา่ล่ะถึงแก่กาลที่ควรจะไปดูหิ่งห้อย เสมือนแสงนีออนจากธรรมชาติกันแล้ว เริ่มจากการที่ล่องเรือ เดินทางไปยังจุดชมหิ่งห้อยกันเลย ตรงนี้ขอย้ำว่า ทุกคนควรใส่เสื้อชูชีพ จะว่ายน้ำเก่งแค่ไหน ก็ต้องใส่ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นแล้วทางเราขอย้ำว่าต้องใส่เสื้อชูชีพ ก่อนจะไปถึงจุดชมหิ่งห้อย ตะวันคล้อย เรือลอยลำอยู่ในน้ำ ระหว่างทางสวยงามมาก มีทัั้งร้านรวงที่กำลังเปิดไฟ และวิวตลอดข้างทางให้ชม ล้วนแต่เป็นวิถีชีวิตของคนริมน้ำทั้งนั้น
มาถึงแล้วกับไฮไลท์ในยามค่ำคืน อย่างดงหิ่งห้อย หิ่งห้อยที่นี่มีเยอะมา โดยเฉพาะหน้าฝน หิ่งห้อยจะออกมารวมตัวมากกว่าหน้าอื่นๆ สิ่งที่เราๆทำได้ในการรับชมคือ ถ่ายภาพด้วยเสียงเงียบ ไม่เปิดแฟลชในขณะถ่ายภาพหรือวิดิโอ ไม่เอามือไปคว้าจับหิ่งห้อยมาชื่นชมเป็นการส่วนตัว เพราะบางอย่างหากเราดูอยู่ห่างๆจะคงความสวยงามเอาไว้ตลอดกาล หากไม่ทำร้ายหรือทำห้หิ่งห้อยตกใจ รอบต่อไปเขาอาจจะย้ายถิ่นก็เป็นได้ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีบริการล่องเรือไหว้พระอีกด้วยนะ
เวลาทำการ
ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 14.00 – 21.00 น.
ค่าเข้า
ค่าเข้าตลาดน้ำ เข้าฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
ค่าบริการเรือนำเที่ยว
ราคาต่อหัวอยู่ที่ 60 – 80 บาท ส่วนราคาเช่าเหมาลำนั้น ผู้เช่าต้องตกลงราคา จุดเที่ยว และระยะเวลาในการล่องเรือกับผู้ให้บริการเองค่ะ
การเดินทาง
ตลาดน้ำอัมพวาตั้งอยู่ที่ ซอยเทศบาลตำบลกระดังงา 12 ตำบล กระดังงา อำเภอ บางคนที สมุทรสงคราม การเดินทางมีให้เลือกหลายแบบด้วยกัน
– รถทัวร์ ให้ขึ้นรถทัวร์ที่สายใต้ใหม่โดยให้ขึ้นสาย 76 หรือ 967 รถออกเที่ยวแรก 05.00 น. เที่ยวสุดท้าย 19.00 น.
– รถตู้ ให้ขึ้น ณ อนุเสาวรีย์ชัย เลือกรถที่มีปลายทางอัมพวา ถ้าเป็นรถตู้เที่ยวรถจะถี่มาก เพราะออกเที่ยวแรกตอน 07.00 น. ถึง 20.00 น.
– รถยนต์ส่วนตัวให้ Google Map ได้เลย แต่แนะนำว่าใช้ถนนพระราม 2 มุ่งหน้ามหาชัย และขับมาตามป้ายเรื่อยๆก็ได้ เพราะการมาอัมพวานั้นไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากนัก
