รีวิวเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย เที่ยวยังไงให้คุ้มค่า ไปมายังมีคำตอบ

เมืองไทยเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวที่หลากหลายจริงๆ และหลายๆสถานที่ท่องเที่ยวถือเป็น Unseen ชิ้นงามของประเทศเลยก็ว่าได้ ทั้งในแง่ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ วัฒนธรรม อาหารการกินนี่สุดติ่งไปเลยประเทศไทย เพราะไม่มีที่ใดมีการผสมผสานอาหารได้อร่อยเยี่ยงนี่อีกแล้ว แต่ที่ที่ทางเราจะพาท่านมาเที่ยวทิพย์ในบทความนี้ก็คือ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย รับรองว่าสถานที่แห่งนี้ มีความน่าสนใจ และเป็นที่ที่ถือว่าควรค่าแก่การใช้เวลาในวันหยุด คุณผู้อ่านอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยมีความ Amazing แฝงอยู่ทุกตารางนิ้ว เอาล่ะทางเราขอเข้าเรื่องเลยแล้วกัน

ขอบคุณภาพจากอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย

อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย เป็นแห่งโบราณสถานที่สำคัญของประเทศไทย จนเมื่อปี พ.ศ.2533 ก็ได้ขยับความสำคัญขึ้มาเป็นระดับโลก เพราะในปีดังกล่าวอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ทำให้เริ่มเป็นที่รู้จักและที่สนใจของชาวต่างชาติมากขึ้น เพราะแหล่งโบราณสถานแห่งนี้มีหลายๆอย่างให้น่าศึกษาเอามากๆ และเกือบทุกอย่างนับได้ว่าคือรากฐานวิถีชีวิตของชาวไทยทั้งหลายนี่เอง ภายในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยมีแหล่งโบราณสถานสำคัญด้วยกันหลายจุด แน่นอนว่าไปมายัง จะพาทุกท่านไปผจญภัยในโลกแห่งประวัติศาสตร์ที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ว่าแล้วก็เริ่มกันเลยดีกว่า

เริ่มกันที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุกันเลยละกันเนอะ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เป็นสถานโบราณที่มีขนาดใหญ่ แถมยังเป็นอารามหลวงระดับราชวรวิหาร คิดดูละกันว่าสมัยนั้นจะใหญ่โตอลังการ คงประดับประดาด้วยทองสีเหลืองอร่ามวิบๆวับๆแค่ไหน องค์เจดีย์ประธานของวัดแห่งนี้มีลักษณะเป็นทรงกลม เหมือนกับศิลปะในสมัยอยุธยา และที่สำคัญแม้ว่าอายุของโบราณสถานแห่งนี้จะอยู่ที่หลักร้อย แต่สภาพยังดูสมบูรณ์อยู่ไม่น้อยเลยค่ะ

ขอบคุณภาพจาก

วัดช้างล้อม มีสถาปัตยกรรมที่ยังคงความสมบูรณ์อยู่พอสมควร นั่นคือ เจดีย์องค์ประธาน มีลักษณะคล้ายระฆังคว่ำ มีกำแพงล้อมรอบองค์เจดีย์ประธาน และมีรูปปั้นช้างที่ถูกวางล้อมรอบองค์เจดีย์ประธานและกำแพงอีกที ซึ่งนับรวมแล้วมีช้างทั้งหมด 39 เชือก โดยช้างทุกตัวถูกตั้งให้หันหลังเข้ากำแพงและหันหน้าออก เสมือนกับเป็นผู้เฝ้าองค์เจดีย์ประธานแห่งนี้ นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อ “วัดช้างล้อม” อยากให้ลองสังเกตดูเล่นๆว่า ในบรรดารูปปั้นช้างทั้งหมดในประวัติศาสตร์ที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยนั้น รูปปั้นช้างที่นี่มีลักษณะไม่เหมือนกับวัดอื่นๆ

ใกล้ๆกันกับวัดช้างล้อมก็คือ วัดเจดีย์เจ็ดแถว องค์เจดีย์ประธานเป็นรูปดอกบัวตูม ไม่ต้องสังเกตเลย เพราะในบรรดาเจดีย์ทั้งหมด เจดีย์องค์ประธานมีลักษณะสถาปัตยกรรมที่โดนเด่นกว่าใครเพื่อน แต่ใช่ว่าเจดีย์บริวารที่เหลือจะไม่สวยงามนะ บอกเลยว่าสวยงามตามท้องเรื่อง เพราะว่าเจดีย์บริวารทั้งหมดนั้น มีทั้งที่เป็นศิลปะสุโขทัยแท้ๆ และศิลปะสุโขทัยที่รับเอาอิทธิพลทางด้านศาสนาอย่างศรีวิชัย พุกาม ลังกาและอื่นๆมาผสมผสาน ทำให้จุดนี้มีความผสมผสานที่หลากหลาย บอกเลยว่าจุดนี้ถือเป็นจุดที่คุ้มค่าแก่การมาเยือน เพราะเยือนทีเดียว ได้ดูสถาปัตยกรรมหลากหลายสไตล์ ครบถ้วนสุดๆ

ขอบคุณภาพจาก

ต่อมาคือ วัดนางพญา ถึงแม้ว่าการเวลาจะกัดเซาะให้วัดนางพญาดูทรุดโทรมในยามแรกเห็น เหลือเป็นเศษซากอิฐเป็นจุดๆ แต่บอกเลยว่ากาลเวลาไม่สามารถชะล้างความวิจิตรของวัดแห่งนี้ไปได้หมด ยังคทิ้งร่องรอยความสวยงามประณีตเอาไว้ตามจุดต่างๆ องค์เจดีย์ประธานของวัดแห่งนี้มีลักษณะเป็นทรงกลม บนผนังของวิหารมีลวดลายปูนปั้นลักษณะต่างๆ

ขอบคุณภาพจาก

วัดชมชื่น เป็นวัดที่เจดีย์ประธานมีลักษณะทรงกลม สถาปัตยรรมของวัดไม่ได้ดูแตกต่างจากสถาปัตยกรรมวัดอื่นมากนัก แต่ที่สเปเซี่ลยสุดๆสำหรับวัดนี้ ก็คือ หลักฐานทางโบราณคดีที่ถูกขุดพบในบริเวณของวัด มีทั้งซากมนุษย์โบราณ ฐานก่อนอิฐขนาดใหญ่ ถ้วยเชลียงจำนวนมาก มีทั้งที่ถูกเก็บเอาไว้ในพิพิธภันฑ์ และบางส่วนที่ขุดลึกลงไปในพื้นดิน ตรงนี้แหละที่อยากให้เข้าไปเห็น เพราะนักโบราณคดีขุดลึกลงไป 5-7 เมตรด้วยกันถึงจะเจอโครงกระดูกมนุษย์โบราณ มีการสร้างสะพานเหล็กเพื่อให้นักท่อเที่ยวได้เข้าไปรับชมได้อย่างใกล้ชิดด้วยนะ

ขอบคุณภาพจาก

จริงยังมีวัดวาอีกหลายแห่งในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย เพราะว่าสถานที่แห่งนี้มีพื้นที่มากถึง 45 ตารางกิโลเมตร มีโบราณสถานประมาณ 215 จุด แต่ปัจจุบันขุดพบไปแล้ว 204 จุด และถึงแม้ทุกอย่างจะผุพังแต่ท้งความเป็นมนต์ขลังเอาไว้มาจวบจนปัจจุบัน ไม่อยากจะคิดเลยว่า หากไปยืนอยู่ในยุคนั้นจริงๆ สถาปัตยกรรมเหล่านี้จะสวยงาม Amazing มากแค่ไหน เพราะขนาดเท่าที่เห็นอยู่ เหลือแต่ซาก ยังคงความสวยงามเอาไว้ไม่น้อยเลย เพราะฉะนั้นหากได้ไปชมสถาปัตยกรรมโบราณจริงๆ อยากขอความร่วมมือให้ทุกคนช่วยกันรักษาสมบัติอันล้ำค่าเหล่านี้เอาไว้

ค่าเข้า
– สำหรับชาวไทย 10 บาทต่อคนเท่านั้น
– สำหรับช่าวต่างชาติคนละ 40 บาท
– หากนำยานพาหนะเข้าไปด้วยราคาค่าเข้าของยานพาหนะอยู่ที่ 10 – 50 บาท แล้วแต่ขนาดและประเภทของยานพาหนะ ทางอุทยานมีบริการรถรางนำเที่ยวนะคะ ราคาไม่แพง คนไทย 10 บาทต่อคน ส่วนต่างชาติ 30 บาทต่อคนเท่านั้นค่ะ
วันเวลาทำการ
– เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
– โทรศัพท์  0-5567- 9211
Facebook
เว็บไซต์
วิธีการเดินทาง
อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ตั้งอยู่ที่ตำบลศรีสัชนาลัย อำเภอศรีสัชนาลัย หรือง่ายๆขับรถตาม Google Map ได้ที่ การเดินทางคลิกที่นี่

คุณพึงพอใจกับโพสต์นี้หรือไม่

ให้คะแนนโพสต์

ความพึงพอใจโดยรวม 4.8 / 5. นับคะแนน 191

โพสต์ยังไม่มีคะแนน คุณสามารถเป็นคนแรกที่ให้คะแนนเรา