เมืองโบราณสมุทรปราการ เป็นเมืองที่ถูกจำลองขึ้น ไม่ใช่เมืองโบราณแท้ๆนะคะ แต่ถึงจะถูกจำลองขึ้นมา อารมณ์และบรรยากาศ รวมถึงสถาปัตยกรรมจำลอง ช่างให้ความรู้สึกเหมือนเมืองโบราณจริงๆ เรียกได้ว่าเหมือนยังกับแกะ เมืองโบราณสมุทรปราการเป็นที่ที่เหมาะสำหรับการพาเจ้าตัวเล็กมาเที่ยวมาทำกิจกรรมเสริมความรู้เอามากๆ
ขอบคุณภาพจากเมืองโบราณสมุทรปราการ
แผนผังของเมืองโบราณสมุทรปราการนั้นถูกวางผังจำลองให้เป็นรูปดินแดนไทย รวบรวมจำลองเมืองโบราณต่างๆในประเทศไทย รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ และสถานที่พิเศษอีกหลายจุด มีพื้นที่ในการจัดแสดงมากกว่า 800 ไร่ สร้างขึ้นตามเจตนารมณ์ของคุณเล็ก วิริยะพันธุ์ และคุณประไพ วิริยะพันธุ์ ที่ดินทั้งหมดที่กล่าวมานั้นล้วนแต่เป็นทรัพย์ส่วนต้วของท่านทั้งสอง จุดประสงค์ของท่านทั้งสองในการสร้างเมืองโบราณสมุทรปราการ ก็เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้มีแหล่งศึกษาเกี่ยวกับเมืองโบราณนั่นเอง
ในเมืองโบราณสุมทรปราการถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วน มีทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ มาดูกันว่าแต่ละภาคนั้นมีอะไรให้ชมบ้าง ก่อนเริ่มกันนั้นอยากให้คุณผู้อ่านดูแผนผังของเมืองโบราณสักหน่อย จะได้เป็นไกด์ที่ดีในการเที่ยว
เริ่มกันที่ภาคเหนือเลยนะ ภาคเหนือมีวัดและโบราณสถานเยอะมาก ทางเราขอยกตัวอย่างมาเพียงบางส่วนเท่านั้นนะคะ เพราะถ้ายกมาทั้งหมดคงจะยาวไป จากนั้นขอเริ่มต้นการเที่ยวที่เจดีย์เจ็ดยอด เจดีย์เจ็ดยอดตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ลักษณะของเจดีย์ที่นี่ก็ตามชื่อเลยค่ะ กล่าวคือ มีเจดีย์ทั้งเจ็ดยอด แบบของเจดีย์เจ็ดยอดเดินทางไกลมาจากประเทศอินเดียเชียวนะ ความสำคัญของเจดีย์แห่งนี้ก็คือ เคยเป็นที่ทำกรสังคายนาพระไตรปิฎกมาก่อนในอดีตกาล ซึ่งตรงกับยุคอาณาจักรล้านนานั่นเอง
วิหารหลวงวัดมหาธาตุ ของจริงตั้งอยู่ที่จังหวัดสุโขทัย เป็นวัดที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในอาณาจักรสุโขทัย ถูกสร้างตรงใจของอาณาจักร วิหารแห่งนี้พระพุทธรูปขนาดใหญ่ ถูกจัดเอาไว้ตรงใจกลางทางเดิน ส่วนริมทางเดินนั้นชาวโบราณสร้างเจดีย์รายเอาไว้ตลอดสองฝั่งซ้ายขวา เรียงรายทอดตัวไปยังพระพุทธรูป หลังพระพุทธรูปมีเจดีย์องค์ประธานทรงยอดดอกบัวตูม
เจดีย์จามเทวี เชื่อว่าพอได้ชื่อจามเทวี หลายๆคนรู็ที่มาแน่นอนว่ามาจากจังหวัดลำพูน เจดีย์จามเทวีมีลักษณะเป็นเจดีย์ขนาดเล็กทรงสี่เหลี่ยมซ้อนลดหลั่นกัน 5 ชั้น แต่ละชั้นมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายในซุ้มทั้งหมด 12 องค์ โดยแบ่งออกเป็นด้านละ 3 องค์ และมีลักษณะแบบนี้จวบจนชั้นที่ 5 มองไปมองมาก็สวยเหมือนกันนะเนี่ยะ
มาที่ภาคกลางกันบ้าง ภาคเหนือว่าเยอะแล้ว เจอภาคกลางเข้าไปถึงกับตะลึงเลยค่ะ ที่แรกที่จะพาไปเลยก็คือพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ถึงแม้ว่าของจริงจะดูใหม่ เหมือนเพิ่งสร้างเสร็จมาหมาดๆ แต่ขอบอกว่าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ถูกสร้างและสถาปนาให้เป็นพระมหาปราสาทประจำกรุงรัตนโกสินทร์โดยการโปรดเกล้าฯของรัชกาลหนึ่ง ถ้าบวกลบเล่นๆก็ปาไป 200 กว่าปีแล้วค่ะ
พระที่นั่งจอมทองอยู่ในเขตวัดพระศรีสรรเพชญ เป็นสถาปัตยกรรมในสมัยอยุธยา เป็นวิหารที่ถือเป็นแหล่งศึกษาธรรม หรือศูนย์ศึกษาธรรมสำหรับเชื้อพระวงศ์ ทำให้สถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนโรงเรียนดีๆนี่เอง ทำให้ได้รู้ว่าสมัยอยุธยานั้นมีความรุ่งเรื่องไม่น้อย จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2310 ก็ถูกข้าศึกเผาทำลาย แต่ก็ยังคงเหลือซากให้เห็นจวบจนปัจจุบัน
หอพระแก้วเป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นจากการผสมผสาน หากมองผิวเผินหลายๆคนคงเดาออกว่านำศิลปะชาติใดมาผสมด้วย ใช่แล้วค่ะ หอพระแก้วผสมผสานศิลปะในสมัยอยุธยาเข้ากับศิลปะจีน นับว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานได้อย่างลงตัว ภายในหอพระแก้วนั้นมีภาพเล่าเรื่องราวต่างๆ เช่น พระพุทธประวัติ ไตรภูมิพระร่าง เป็นต้น ส่วนบริเวณโดยรอบนั้น เน้นปลูกไม้ดอกโทรสีม่วงชมพู ยิ่งสนับสนุนให้หอพระแก้วแห่งนี้ มีบรรยากาศเสมือนเมืองจีนมากขึ้น แค่ถ่ายภาพคู่กับวิวบริเวณนี้ ก็คุ้มแล้วสำหรับการมาเยือน
มาที่ภาคอีสานกันบ้างดีกว่า เริ่มที่ปราสาทชื่อดังจากจังหวัดบุรีรัมย์ นั่นก็คือ ปราสาทหินพนมรุ้ง ปราสาทหินพนุ่มรุ้งถูกสร้างขึ้นต่อเนื่องกันหลายสมัย ทำให้ได้รับอิทธิพลทางด้านความเชื้อมาจากหลายสาขา ทำให้สถาปัตยกรรมของปราสาทพนมรุ้ง มีความหลากหลาย แต่จุดประสงค์หลักของการสร้างก็เพื่อเชิดชูบูชาตามความเชื่อลัทธิไศวนิกาย ของศาสนาฮินดูนั่นเอง
พระธาตุพนม ของจริงตั้งอยู่ในจังหวัดนครพนม เป็นพระธาตุที่รวมความศรัทธาของชาวบ้าริมแม่น้ำโขงมาตั้งแต่สมัยโคตรบูรจวบจนสมัยล้านช้าง ลักษะของพระธาตุองค์นี้เป็งทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส ไล่กันซ้อนกันเป็นชั้นเชิง ส่วนยอดของพระธาตุเป็นทรงดอกบัวเหลี่ยม ภายในพระธาตุนั้นบรรจุพระสารีริกธาตุเอาไว้
ปราสาทพระวิหาร แต่เดิมนั้นอยู่ในอาณาเขตจังหวัดศรีสะเกษ แต่เนื่องจากดินแดนแห่งนี้เป็นข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชามาช้านาน ในที่สุดศาลโลกจึงพิพากษาให้ปราสาทพระวิหารตกแก่ประเทศกัมพูชา โดยปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดพระวิหารของประเทศกัมพูชา แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าโบราณสถานแห่งนี้จะเป็นของประเทศใด ความสวยงามของศิลปะและสถาปัตยกรรมนั้น ไม่เคยเลือนหายไปตามกาลเวลา ยังคงความอลังการงานสร้างเอาไว้ตลอดกาล
มาตบท้ายกันที่ภาคใต้บ้างดีกว่า อย่างพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ว่ากันว่าเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ทรงเจดีย์ของพระบรมธาตุนั้นได้รับอิทธิพลมาจากลังกาวงศ์ เนื่องจากในสมัยนั้นมีการส่งคณะภิกษุไปศึกษาธรรมกับลังกาวงศ์ เชื่อไหมว่าจากหลักฐานพบว่าพระบรมธาตุถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1098 แต่ด้วยความที่ได้รับการบูรณะและรักษามาโดยตลอด จึงทำให้ของจริงในปัจจุบันนั้นยังคงสภาพสมบูรณ์เอาไว้เฉกเช่นปัจจุบัน
นึกถึงภาคใต้ก็ต้องนึกถึงมโนห์ราใช่ไหมล่ะ เราจึงพาท่านผู้อ่านมาเยือนสวนมโนห์รา ในสวนมีรูปปั้นแสดงอากัปกริยาต่างๆ บอกเรื่องราวมโนห์ราผ่านรูปปั้นถึงตอนที่ฮิตติดหูที่เล่าขานกันว่า ระหว่างที่ลงมาเล่นน้ำที่สระ มโนห์ราโดนพรานบุญจับตัวไปเพื่อจะเอาร่างและชีวิตไปถวายแก่พระสุธนนั่นเอง
พระบรมธาตุไชยาจังหวัดสุราษฎ์ธานี เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก เป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นในสมัยศรีวิชัย เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวสุราษและเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำภาคใต้เลยก็ว่าได้ เชื่อกันว่าภายในพระธาตุเป็นที่ีประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า
นอกจากนี้ยังมีในส่วนของดินแดนสุวรรณภูมิและพิพิธภัณฑ์อีกหลายจุด รวมทั้งมุมถ่ายรูปอีกหลายมุม มาเหอะคุ้มมากบอกเลยค่ะ มุมถ่ายรูปเพียบ ความรู้แน่นๆ รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวังการพื้นที่ 800 ไร่ของเมืองโบราณสมุทรปราการเลยแม้แต่น้อย
ค่าเข้า
– สำหรับคนไทย ผู้ใหญ่ 400 บาทต่อคน เด็ก 200 บาทต่อคน
– สำหรับชาวต่างชาติ 700 บาทต่อคน อายุระหว่าง 6 – 15 ปี อยู่ที่ 350 บาทต่อคน
เวลาทำาการ
– ทุกวัน 09.00 – 18.00 น.
ต่อต่อสอบถาม
– โทรศัพท์ 02-026-8800-9 , 086-3247658
– Facebook
– website
วิธีการเดินทาง
เมืองโบราณสมุทรปราการตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 7 296/1 ถ. สุขุมวิท ตำบล บางปูใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ สมุทรปราการ การเดินทางจาก กทม – เมืองโบราณนั้นง่ายมากๆ ขึ้น BTS จากสยามฯ มุ่งตรงมายัง ฺBTS เคหะฯ จากนั้นใช้เวลาเพียง 10 นาทีในการเดินทางจาก BTS เคหะฯไปยังเมืองโบราณ หรือหากนำรถยนต์ส่วนตัวไป ทำได้ง่ายๆเพียงคลิก การเดินทางคลิกที่นี่