แม้ว่าช่วงนี้สถานการณ์โควิดจะเริ่มดีขึ้นมาก ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ แต่ก็ต้องยอมรับด้วยว่า ยังมีอีกหลายประเทศเช่นกันที่ยังต้องต่อสู้กับวิกฤตโควิดระลอกใหม่ที่ยังมีผู้ติดเชื้อ แม้จะมีการฉีดวัคซีนไปจำนวนมากแล้วก็ตามค่ะ ทำให้การเดินทาง ไม่ว่าจะไปไหน จะเดินทางเข้า-ออกประเทศ ความปลอดภัยจึงต้องมาก่อนเสมอ และตอนนี้หลังจากที่ไทยเปิดประเทศ ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2564 ก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก รวมทั้งคนไทยที่อยู่ต่างแดน หากอยากจะกลับมาเที่ยวบ้านในช่วงนี้ ต้องมีการลงทะเบียนก่อนเดินทางเข้าประเทศ ผ่านระบบที่เรียกว่า Thailand Pass ไทยแลนด์พาส บริการช่วยเหลือลงทะเบียน Thailand Pass
โดยจะต้องมีการฉีดวัคซีนให้ครบโดสตามที่แต่ละประเทศกำหนด หรือหากไม่ได้รับวัคซีนมาก่อน จะต้องทำการกักตัว ในโรงแรม หรือสถานที่ ที่รัฐบาลจัดเตรียม แบบมีค่าใช้จ่ายด้วย เอาล่ะ งั้นเราไปทำความรู้จักกับ Thailand Pass ว่ามีเงื่อนไขและรายละเอียดยังไงบ้าง หากใครจะเข้ามาเที่ยวไทย จะได้เตรียมตัวให้พร้อม
ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับระบบ Thailand Pass กันก่อนเลย โดยระบบนี้ สร้างขึ้นมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวลงทะเบียน ยืนยันข้อมูลต่าง ๆ ก่อนเข้าประเทศไทย ต้องลงทะเบียนก่อนล่วงหน้าประมาณ 3-7 วัน ก่อนการเดินทางจะมาถึง ลงได้ทั้งผ่านเว็บไซต์ในคอมพิวเตอร์และมือถือ
ต้องมีการแนบเอกสารของตนเองให้ครบถ้วน เช่น
– เอกสารการฉีดวัคซีน ทั้งเข็ม 1 และ 2
– เอกสารที่ชำระค่าที่พัก ต้องเป็นโรงแรมที่ผ่านมาตราฐานตาม AQ หรือ SHA SHA+ เท่านั้น
– เอกสารข้อมูลส่วนบุคคลตามแบบฟอร์ม ต.๘ และ ตม.๖ และสำเนาหนังสือเดินทาง
– Thailand Pass QR Code (สำหรับส่วนนี้ จะได้รับหลังลงทะเบียนเสร็จแล้ว)
– ผลตรวจโควิดก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง
ในส่วนของการลงทะเบียน เฉพาะทางอากาศ จะต้องเข้าระบบผ่านเว็บไซต์ https://tp.consular.go.th
เลือก “คนไทย” หรือ “Non-Thai” ซึ่งจะมีแผนการเดินทางให้เลือก 3 แผน
– แผนที่ 1 คือ Exemption from Quarantine (Test and Go) จะเป็นการตรวจสอบผู้เดินทางมาจากประเทศที่กำหนด ผู้เดินทางพำนักอยู่ในประเทศต้นทางไม่น้อยกว่า 21 วันและได้รับวัคซีนครบโดสอย่างน้อย 14 วันก่อนเดินทาง และพักในโรงแรมที่กำหนด 1 คืน มีผลตรวจ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง เอกสารประกอบการยืนยันคือ หนังสือเดินทาง , หนังสือรับรองการฉีดวัคซีน หลักฐานการจองโรงแรมและชำระเงินสำหรับพัก 1 คืน รวมค่าธรรมเนียมการตรวจ RT-PCR 1 ครั้ง
– แผนที่ 2 Sandbox Programme
แผนนี้จะเปิดให้ผู้เดินทางเข้าประเทศ เดินทางไปยังพื้นที่นำร่อง 4 จังหวัดได้ โดยต้องเป็นผู้ที่รับวัคซีนครบโดสมาแล้ว 14 วัน จองที่พักในโรงแรม SHA+ หรือ AQ Hotel ในพื้นที่ Sandbox 7 คืน มีผลตรวจ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง จังหวัดที่เข้าร่วม Sandbox ได้แก่ กระบี่, กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี, ตราด, บุรีรัมย์, ประจวบคีรีขันธ์, พังงา, ภูเก็ต, ระนอง, ระยอง, สมุทรปราการ, สุราษฎร์ธานี, หนองคาย, อุดรธานี, เชียงใหม่, เพชรบุรี และเลย ทั้งนี้ต้องเช็ครายละเอียดแบบรายวันเช่นกัน เพราะอาจจะมีหลายจังหวัดได้รับรองระบบ Sandbox เพิ่มขึ้น
– แผนที่ 3 Alternative Quarantine
เป็นผู้ที่อยู่นอกเงื่อนไขข้างต้น หรือผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบโดสตามที่กำหนด ต้องเข้าพักใน AQ หรือโรงแรม 10 วัน และเตรียมหลักฐานการจองโรงแรม ชำระเงิน AQ สำหรับการพัก 10 คืน และรวมค่าธรรมเนียมการตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง เมื่อครบกำหนดการกักตัว สามารถเดินทางไปยังจังหวัดอื่น ๆ ได้
ทั้งนี้เมื่อได้ลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass มาแล้วในครั้งแรก หากมีการเดินทางเข้ามาประเทศไทยอีกครั้ง ระบบจะเก็บข้อมูลการเดินทางไว้แล้ว และมีเอกสารเรื่องการฉีดวัคซีนรองรับ ทำให้ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ในครั้งต่อไป เพียงแต่ต้องยื่นผลตรวจโควิดก่อนการเดินทางภายใน 72 ชั่วโมงเท่านั้น
ลำดับต่อมา ในระบบจะสอบถามเบื้องต้น ถึงวัตถุประสงค์การเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว, ธุรกิจ, การศึกษา, สุขภาพ และอื่น ๆ และให้เลือกประเทศต้นทาง พร้อมเลือกสนามบินแรกที่จะเข้ามาในประเทศไทย เพื่อทำการตรวจเอกสาร
อย่างไรก็ตาม ข้อสำคัญในการลงทะเบียนนั้น ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงวันเดินทางได้ หากท่านต้องการเปลี่ยนแปลงวันเดินทางหรือรายละเอียดในการลงทะเบียน จำเป็นต้องทำการลงทะเบียนใหม่อีกครั้งในระบบ Thailand Pass นอกจากนี้หลังเตรียมเอกสารทั้งหมดพร้อมแล้ว ผู้เดินทางเข้าประเทศไทยต้องมีหลักฐานการทำประกันภัยที่มีวงเงินคุ้มครองอย่างน้อย 500,000 ดอลลาร์ ด้วย
ทีนี้ถ้าใครกำลังมีแพลนจะเดินทางมาประเทศไทย ก็สามารถปฏิบัติตามหลักการเบื้องต้นได้เลย เตรียมทั้งเอกสารให้พร้อม และต้องลงทะเบียนก่อนเดินทาง เพื่อเวลาที่ถึงจุดหมายปลายทาง จะได้สะดวกต่อการทำเรื่องเข้าประเทศค่ะ และยังถือเป็นการเที่ยวแบบปลอดภัย ทั้งกับตนเองและบุคคลอื่น ๆ ด้วย รวมทั้งระบบ Thailand Pass ยังข้อดีด้วย เพราะถ้าหากเราเดินทางซ้ำ ก็ไม่ต้องเริ่มยื่นคำร้องใหม่ เพราะข้อมูลสามารถเก็บนาน 1 ปี ด้วยล่ะ
