สายถ่ายรูปบอกเลยว่าห้ามพลาดทริปนี้ 15 ที่เที่ยวอยุธยาเก๋ๆ คูลๆ มีอยู่จริง พระนครศรีอยุธยาอยู่ใกล้แค่เอื้อม เที่ยวกันแบบอิ่มบุญอิ่มท้อง วันเดียวก็เปรี้ยวได้โดยไม่ต้องง้อวันหยุด ถ้าพร้อมแล้ว…ไปดูกันว่าอยุธยาเมืองเก่าของเราแต่ก่อน เมืองที่ไปครั้งใดก็สุขใดทุกครา มีสถานที่โดนใจที่ไหนบ้าง
อ่านเกี่ยวกับ
ที่พักสวยอยุธยา
ร้านอาหารเจ้าเด็ดอยุธยา
1.พระราชวังบางปะอิน
แน่นอนเลยว่าถ้าพูดถึงอยุธยาแล้ว จะต้องนึกถึงพระราชวังบางปะอินเป็นลำดับต้น ๆ ขึ้นมา ที่แห่งนี้มีความสำคัญเพราะเป็นพระราชวังเก่าตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระเจ้าปราสาท เนื่องด้วยแห่งนี้คือสถานที่ประสูติของพระองค์ และได้ใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อนสำหรับพระมหากษัตริย์กรุงศรีอยุธยาจนกระทั่งเสียกรุงให้พม่า ปัจจุบันพระราชวังบางปะอนยังคงได้ใช้เป็นสถานที่แปรพระราชฐานและพระราชพิธีสังเวยพระป้าย แต่ก็เปิดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าชมปกติ โดยจะต้องแต่งกายให้สุภาพ ช่างเป็นโชคดีเหลือเกินที่ได้มีโอกาสเห็นสถานที่สำคัญเช่นนี้ การเดินทางคลิกที่นี่
2.วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร
หลังจากที่แวะเยี่ยมชมพระราชวังบางปะอินแล้ว นักท่องเที่ยวนิยมข้ามฟากไปยังวัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร ซึ่งหลายคนประทับใจกับวิธีการเดินทาง ขณะเดียวกันก็ตื่นเต้นปะปนหวาดเสียวหน่อย ๆ พอให้ได้ระทึก เนื่องจากการเดินทางมีเพียงทางเดียวก็คือ นั่งกระเช้าไฟฟ้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไป โดยไม่ต้องกังวลความปลอดภัยเพราะมีเจ้าที่ควบคุมดูแลอย่างดี สำหรับวัดแห่งนี้ถือว่าเป็นวัดไทยในสไตล์ฝรั่งที่ดูแปลกตาและได้กลิ่นอายตะวันตก การเดินทางคลิกที่นี่
3.ตลาดโก้งโค้ง บ้านแสงโสม
เช้า ๆ อากาศดียังไม่ร้อน แต่ท้องร้องแล้วขอให้ตรงมาที่ตลาดโก้งโค้ง บ้านแสงโสมกันเลยจ้ะ ที่นี่เป็นตลาดย้อนยุคที่คงความเป็นไทยไว้อย่างชัดเจน ทั้งวัฒนธรรมชุมชนที่คนขายสินค้าจะนั่งอยู่ที่พื้นดิน และคนที่มาซื้อจะต้องโก้งโค้งเลือกสินค้าข้าวของ อีกทั้งมีบ้านเรือนไทยหมู่ใหญ่ที่ให้บรรยากาศในอดีตได้เป็นอย่างดี เอาใจคนชอบถ่ายรูปยิ่งนัก สำหรับข้าวของที่นำมาขายนั้นจะเป็นสินค้าภูมิปัญญาพื้นบ้าน ทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องใช้ไม้สอย จำหน่ายในราคาไม่แพง และจุดเด่นคือพ่อค้าแม่ขายจะใส่ชุดไทยพื้นถิ่น การเดินทางคลิกที่นี่
4.วัดพุทไธศวรรย์
ถ้าใครเป้นแฟนละครเรื่องบุพเพสันนิวาส จะต้องรู้จักวัดพุทไธศวรรย์เป็นอย่างดี ด้วยสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ฝึกดาบฝึกอาคมของบรรดาลูกศิษย์อาจารย์ชีปะขาวนั่นเอง วัดพุทไธศวรรย์มีอายุกว่า 600 ปีมาแล้ว ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทางด้านทิศตะวันตก เป็นหนึ่งในวัดที่สำคัญยิ่งตลอดสมัยกรุงศรีอยุธยาและรัตนโกสินทร์ นักท่องเที่ยวนิยมมาสักาาระและขอพรหลวงพ่อดำ เชื่อกันว่าท่านศักดิ์สิทธิ์นัก สมัยก่อนใครเจ็บป่วยก็หาย อยากมีบุตรก็ได้สมใจเมื่อได้มากราบขอท่าน การเดินทางคลิกที่นี่
5.วัดไชยวัฒนาราม
หลายคนคงอยากแต่งตัวตามแม่หญิงการะเกดมาที่วัดไชยวัฒนาราม เพราะเป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่องบุพเพสันนิวาส และที่สำคัญ สถานที่แห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ด้วยว่ามีพระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ เป็นปรางค์ประธานอยู่ใจกลางวัด ดังนั้น ใครมาอยุธยยาแล้วก็ไม่ควรพลาดที่จะมายังวัดไชยวัฒนารามซึ่งเป็นวัดหนึ่งในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากนครวัดในครั้งสมัยพระเจ้าปราสาททอง การเดินทางคลิกที่นี่
6.ตลาดน้ำทุ่งบัวชม
ร้อนๆ หิวๆ ต้องนึกถึงตลาดเลยจ้ะ ขอแนะนำตลาดน้ำทุ่งบัวชม ตลาดที่ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดยอดฮิตที่ใคร ๆ ก็อยากแวะมาสัมผัสกับวัฒนธรรมโบราณที่ได้ประยุกต์ให้เข้ากับสมัยใหม่ได้อย่าลงตัว ภายในตลาดมีของกินของใช้ของฝากมากมาย รวบรวมสินค้าพื้นถิ่มเอาไว้ครบทั้ 4 ภาค และยังมีการแสดงอย่างลิเกและงิ้วไว้ให้รับชมกันอย่างเพลิดเพลินอีกด้วย แต่จุดเด่นที่ปากต่อปากก็คือ หุ่นยนต์จำลองจากเรื่องทรานส์ฟอร์เมอร์สที่ตั้งอยู่ที่ทางเข้า เอาใจคนชอบถ่ายรูปอีกแล้ว การเดินทางคลิกที่นี่
7.วัดพระงามคลองสระบัว
ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่าวัดพระงามคลองสระบัวแห่งนี้ถูกทิ้งร้างหลังจากเสียกรุงครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ.2310 แต่ด้วยความงดงามอันน่ามหัศจรรย์ทำให้ถูกค้นพบและบูรณะขึ้นมาใหม่ ทว่าซุ้มประตูได้ถูกรากของต้นโพธิ์ปกคลุมมาร่วมร้อยปีนั้นทำให้กลายเป็นเรื่อง Unseen Thailand จนได้รับการขนานนามว่า “ประตูแห่งกาลเวลา” ช่างดูลึกลับน่าค้นหา ยิ่งตอนพระอาทิตย์ตกดินแล้วนั้น แสงสีส้มทองสาดส่องผ่านซุ้มประตูเข้าไปภายในอุโบสถและเจดีย์แปดเหลี่ยม งดงามเหนือคำบรรยายใดๆ ทั้งสิ้น การเดินทางคลิกที่นี่
8.วัดใหญ่ชัยมงคล
วัดใหญ่ชัยมงคล ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำป่าสัก พระเจ้าอู่ทองทรงสร้างขึ้นสำหรับเป็นสำนักสงฆ์ที่ไปบวชเรียนมาจากสำนักพระวันรัตน์มหาเถรในประเทศลังกา ต่อมาในปี พ.ศ.2135 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงทำยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราชแห่งพม่า ทรงสร้างพระเจดีย์ใหญ่ขึ้น ณ วัดนี้เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะ ทว่าประชาราษฎร์เรียกพระเจดีย์ชัยมงคลเป็นพระเจดีย์ใหญ่ นานวันเข้าจึงได้เรียกกันอย่างเช่นในปัจจุบันและยังคงเป็นวัดหนึ่งที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ การเดินทางคลิกที่นี่
9.วัดวชิรธรรมาราม
วัดวชิรธรรมาราม หรือที่ใคร ๆ เรียกกันว่า วัดหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ นั่นก็เพราะเราสามารถเห็นองค์ท่านเด่นตระหง่านมาแต่ไกล จึงกลายเป็นจุดเด่นของสถานที่แห่งนี้ นักท่องเที่ยวต่างพากันมากราบขอพรและสักการะหลวงปู่ทวดให้คุ้มครองให้ปลอดภัย นอกจากภายในวัดจะสงบร่มเย็นแล้ว ยังได้ตระเตรียมรถเข็นไว้ให้ผู้สูงอายุได้ใช้บริการอีกด้วย และโดยรอบ ๆ ก็จะมีตลาดหลวงปู่ทวด มีร้านค้าร้านอาหารทั้งคาวหวานที่ทำจากผลิตภัณฑ์ชุมชนมาให้เลือกสรรกันอย่างจุใจและอิ่มท้อง การเดินทางคลิกที่นี่
10.หอศิลป์กรุงสยาม 3 มิติ
มาถ่ายรูป 3 มิติกันที่หอศิลป์กรุงสยามดีกว่า หลังจากที่ไหว้สักการะหลวงปู่ทวดแล้ว ภายในบริเวณวัดวชิรธรรมารามได้มีส่วนจัดแสดงภาพ 3 มิติและหุ่นขี้ผึ้งอีกด้วย เรียกว่ามาที่เดียวครบเลย ทั้งวัดทั้งตลาด แถมยังได้รับชมศิลปกรรมสวยงามประณีตอีกต่างหาก เมื่อเข้าไปด้านในจัดแสดงโซนแรกด้วยหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อและเกจิอาจารย์ อาทิ หลวงพ่อโต หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ส่วนโซนต่อไปจะเป็นเรื่องราวของภาพ 3 มิติแสนสวย เอาใจคนรักการถ่ายรูปจริง ๆ นะทริปนี้ การเดินทางคลิกที่นี่
11.พิิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธุ์
ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่รับรองว่าต้องถูกใจแน่ ๆ เพราะที่พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธุ์เต็มไปด้วยของเล่น แล้วต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลยนะ ที่นี่เป็นสถานที่รวบรวมของเล่นเจ๋ง ๆ ไว้มากมาย เป็นของสะสมระดับโลกเลยทีเดียว เห็นแล้วต้องตะลึงวิวัฒนาการของเล่นที่หาชมได้ยากที่มีอายุนับร้อยปีเลยทีเดียว และยังได้เห็นของเล่นในปัจจุบันนี้ที่ต้องว้าว ซึ่งได้จัดส่วนการแสดงอยู่ในอาคารสีฟ้าสองชั้น โดยแบ่งสรรปันส่วนพื้นที่ไว้อย่างดีเลยแหละ อาทิ ชั้นบนจัดแสดงงานสะสมที่เกี่ยวกับวิถีไทย ส่วนชั้นล่างจัดแสดงของเล่นโบราณทั้งไทยและต่างประเทศ การเดินทางคลิกที่นี่
12.บ้านฮอลันดา
อย่าเพิ่งตกใจไปถ้าบอกว่าจะพามาเยี่ยมชมบ้านฮอลันดา ที่นี่คืออยุธยาแน่นอน ซึ่งสถานที่แห่งนี้ถือว่าเป็นแแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวฮอลันดาครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยาที่เป็นอีกชาติหนึ่งที่เข้ามาติดต่อค้าขายกัน มีบันทึกเล่าไว้ว่าเดิมทีพวกเขาเข้ามาเพื่อติดตามเรือบรรณาการสยามที่ถูกส่งไปที่จีน แต่เมื่อได้เข้ามายังสยามประเทศของเราแล้วก็พบว่าอุดมสมบูรณ์มาก จากนั้นจึงได้ก่อตั้งสถานีการค้าบริษัทอินเดียตะวันออกขึ้นเพื่อค้าขาย สำหรับการจัดแสดงนั้นหลงเหลือเพียงรากฐานอาคารเดิมเท่านั้น จึงได้ก่อตั้งอาคารอิฐขึ้นใหม่เพื่อแสดงนิทรรศการ การเดินทางคลิกที่นี่
13.หมู่บ้านญี่ปุ่น
มาต่อกันที่หมู่บ้านญี่ปุ่นกันดีกว่า ซึ่งเราก็ยังอยู่กันในอยุธยา ที่นี่เป็นอนุสรณ์สถานระหว่างไทย-ญี่ปุ่น จากบันทึกประวัติศาสตร์ระบุไว้ว่าในราวศตวรรษที่ 16 นั้น พระเจ้าแผ่นดินของเราได้มีพระบรมราชานุญาตให้ชาวญี่ปุ่นมาตั้งที่อยู่อาศัยในกรุงศรีอยุธยาได้ จึงทำให้มีคนญี่ปุ่นเข้ามาตั้งรกรากมากถึง 1,500 คนเลยทีเดียว นอกจากที่นี่จะเสนอประวัติศาสตร์ความเป็นมาและวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นในสมัยนั้นแล้ว ที่นี่ยังมีเรื่องราวและหุ่นขี้ผึ้งของท้าวทองกีบม้าให้ได้ศึกษาอีกด้วย การเดินทางคลิกที่นี่
14.ตลาดน้ำอโยธยา
ไม่ว่าจะมาอยุธยาอีกกี่ครั้ง ยังไงก็ต้องไม่พลาดที่จะแวะตลาดน้ำอโยธยา เพราะที่นี่คือตลาดน้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอยุธยา มีพื้นที่กว้างขวาง ร่มรื่นด้วยต้นไม้และการจัดภูมิทัศน์ให้สวยงาม เมื่อเข้ามาภายในแล้วเหมือนตกอยู่ในบรรยากาศกรุงเก่า มีตลาดขายสินค้าที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำ มีร้านค้ามากมาย มีอาหารร้านขึ้นชืื่อ มีขนมหวานแสนอร่อย มีของฝากที่ซื้อกลับไปรับรองว่าถูกใจผู้รับ ที่สำคัญ ที่นี่ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ได้รับความสนใจทั้งชาวไทยและต่างชาติ การเดินทางคลิกที่นี่
15.อยุธยา ไนท์ มาร์เก็ต (ตลาดกรุงศรี)
ปิดท้ายทริปอยุธยาแบบเอาใจคนรักถ่ายรูปที่นี่เลย อยุธยา ไนท์ มาร์เก็ต (ตลาดกรุงศรี) แหล่งท่องเที่ยวในโซนเมืองเก่าที่เปิดให้ท่องเที่ยวกันในยามค่ำคืน ความพิเศษของที่นี่ก็คือมีบรรยากาศกรุงเก่าและโคมไฟสวย ๆ และบรรดาพ่อค้าแม่ค้ายังใส่ชุดไทยให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไป จึงไม่แปลกใจที่จะได้เห็นนักท่องเที่ยวนุ่งโจงห่มสไบกันมาเดินเที่ยวกันอย่างสนุกสนาน ต้องบอกว่าที่ยี่เดินเที่ยวได้แบบจุใจสุด ๆ ไปเลย เพราะมีร้านค้าเยอะมาก ทั้งอาหารการกินและของที่ระลึก การเดินทางคลิกที่นี่
จริง ๆ แล้วจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน แต่เชื่อเลยว่ายังคงการันตีความสนุกและรอยยิ้มได้เสมอเมื่อมาเยือน แถมมาวันเดียวก็เที่ยวได้ครบ แถมได้รูปสวย ๆ กลับมาอัพโซเซียล ที่สำคัญ อาหารการกินอุดมสมบูรณ์มาก ๆ เลย เพราะอย่างนี้นี่เอง…จุดหมายปลายทางต่อไปอาจจะยังคงเป็นอยุธยาอยู่วันยันค่ำก็เป็นได้
