ยกให้เป็นจังหวัดยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวมาเยือนกันบ่อย ๆ สำหรับจันทบุรี ที่มีทะเลสวย ผลไม้อร่อย ที่เที่ยวเยอะมาก และบรรยากาศดีทั้งนั้นเลย มีหลากหลายเส้นทางให้เดินทางมาเที่ยวได้สะดวก แม้ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ระยะทางจากกรุงเทพฯไปจันทบุรี ประมาณ 250 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางคร่าว ๆ ประมาณ 4-5 ชม. ในการเดินทางแบบรถสาธารณะ เช่น รถตู้ มินิบัส รถทัวร์และรถไฟ ราคาย่อมเยาว์ สะดวก มีรอบบริการเยอะด้วย ใครที่ไม่มีรถยนต์ก็หมดกังวลได้เลย วันนี้เรามีวิธีการเดินทางจากกรุงเทพฯไปจันทบุรี แบบถูกและดีที่สุด ปี 2022 มาแนะนำบอกเลยว่าห้ามพลาด
การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปจันทบุรี โดยรถตู้
เริ่มต้นการเดินทางด้วยวิธีแรกกันเลย ถือเป็นวิธียอดนิยม สะดวก มีรอบรถบริการเยอะ สามารถกำหนดเวลาได้ง่าย และใช้เวลาเดินทางไม่นาน รถตู้ทำความเร็วได้ดีกว่ารถทัวร์ ใช้ระยะเวลาประมาณ 4 ชม. โดยจะมีสถานีบริการรถตู้โดยสาร ที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 อาคาร C ช่อง1 เวลาให้บริการตั้งแต่ 05.00 -18.00 น. ราคาตั๋วโดยสาร 200 บาท จุดหมายปลายทางที่ลง จะลงที่สถานีขนส่งจันทบุรี ปลายทางอื่น ๆ สามารถแจ้งกับโชเฟอร์รถ หรือผ่านพนักงานที่จำหน่ายตั๋วได้เลย รถจะออกทุก ๆ 1 ชม. หรือหากมีผู้โดยสารเต็มรถแล้ว ก็จะออกจากสถานีทันที ถือว่าสะดวกต่อคนที่ต้องการเดินทางแบบรวดเร็ว
การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปจันทบุรี โดยรถมินิบัส
ต่อมาจะเป็นการเดินทางด้วยรถมินิบัส จะนั่งสบายกว่ารถตู้ เนื่องจากพื้นที่ในรถกว้าง ใช้เวลาเดินทางใกล้เคียงกัน อาจจะราว ๆ 4 – 4.30 ชม. ที่นั่งกว้าง พร้อมบริการช่องเสียบสายชาร์ต USB ทำให้สะดวกในการเดินทาง ชาร์ตมือถือ ฟังเพลง เล่นโซเชียลได้ตลอดระยะทาง มีบริการของคิวรถตู้ ยกทีม 9907 ที่ให้บริการรถเดินทางแบบมินิบัสด้วย จุดขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 อาคาร C ช่อง1 จะมีรอบ 06.00 น. , 12.00 น. และ 08.00 น. ราคาตั๋วโดยสาร 230 บาท จะลงที่สถานีขนส่งจันทบุรี ปลายทางอื่น ๆ สามารถแจ้งกับโชเฟอร์รถ ได้เช่นกัน เหมือนกับการเดินทางด้วยรถตู้
นอกจากนี้ยังมีบริการรถมินิบัสของ Triple T Minibus ทริปเปิล ที ที่จองที่นั่งผ่านเว็บไซต์ได้แบบสะดวก ๆ มีจุดขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต ลงปลายทางสถานีขนส่งจันทบุรี บริการรอบแรกเวลา 05.30 น. ,11.00 น. , 14.30 น. และ 16.00 น. ใช้เวลาเดินทาง 4- 4.30 ชม. ราคาตั๋วโดยสาร 250 บาท
การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปจันทบุรี โดยรถทัวร์
เริ่มกันที่รถทัวร์ของบขส.จะมีจุดขึ้นรถทั้งที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 และเอกมัย สำหรับเส้นทางหมอชิต 2 มีจุดจอดที่กุลพัฒน์ ,ตลาดพลับพลา ,พลิ้ว-แหลมสิงห์,อ.ขลุง ,อ.นายายอาม , แยกเขาดิน ,สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.จันทบุรี และสำนักงานพรนิภาทัวร์ จ.จันทบุรี บริการเดินรถรอบแรกเวลา 06.30 น. – 17.00 น. เช็คเวลาการเดินทางผ่านเว็บไซต์ หรือช่องทางการจำหน่ายตั๋วได้เลย อาจจะมีการ เปลี่ยนแปลงเวลาในช่วงสถานการณ์โควิด หรือช่วงเทศกาล ต้องติดตามใกล้ชิดก่อนการเดินทาง ราคาตั๋วโดยสาร เริ่มต้นที่ 200-230 บาท
ส่วนบริษัทของพรนิภาทัวร์ จะขึ้นรถที่สถานีขนส่งเอกมัย โดยจะมีจุดจอดที่กุลพัฒน์ ,พลิ้ว-แหลมสิงห์,อ.ขลุง ,อ.นายายอาม , แยกเขาดิน และสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.จันทบุรี
โดยจะมีจุดจอดที่กุลพัฒน์ ,พลิ้ว-แหลมสิงห์,อ.ขลุง ,อ.นายายอาม , แยกเขาดิน และสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.จันทบุรี บริการเดินรถรอบแรกเวลา 06.00 น. – 17.00 น. ราคาตั๋วโดยสาร เริ่มต้นที่ 200-230 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง จุดหมายปลายทางที่ลงรถ ในส่วนการเดินทางด้วยรถทัวร์ ใช้เวลาเดินทาง 4.30-5 ชม.
การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปจันทบุรี โดยรถไฟ
และการเดินทางด้วยวิธีสุดท้ายก็มาถึงแล้ว เป็นการเดินทางด้วยรถไฟจากกรุงเทพฯไปจันทบุรี ซึ่งต้องบอกก่อนว่า ที่จันทบุรีจะไม่มีสถานีรถไฟโดยตรง แต่สถานีที่เดินทางได้ใกล้ที่สุด และต่อรถโดยสารอื่น ๆ มาได้ นั่งจากสถานีกรุงเทพฯ มาลงยังบ้านพลูตาหลวง จ.ชลบุรี และเมื่อถึงชลบุรีแล้ว จะเดินทางด้วยรถตู้ รถทัวร์มาจันทบุรีก็สะดวก ประหยัดค่าใช้จ่ายได้พอสมควร เหมาะกับคนที่มีเวลา ไม่รีบร้อน เดินทางกับกลุ่มเพื่อน และต้องการประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการนั่งรถไฟชมสองข้างทาง ใช้เวลาเดินทาง 5 ชม. จากกรุงเทพฯ ถึงพลูตาหลวง จ.ชลบุรี และใช้เวลาอีก 2 ชม. เดินทางต่อไปจันทบุรี รวมเป็น 7 ชม.
รถไฟที่ให้บริการ คือหมายเลขขบวน 283 รถธรรมดากรุงเทพฯ -บ้านพลูตาหลวง ออกจากสถานีเวลา 06.55 น. ถึงปลายทางเวลา 11.20 น. ราคาตั๋วโดยสาร ประเภทที่นั่งพัดลม ชั้น 3 อยู่ที่ 37 บาทเท่านั้น เป็นการเดินทางที่ประหยัดงบในการเดินทางไปได้เยอะเลยทีเดียว
เป็นยังไงบ้าง กับวิธีเดินทางทั้ง 4 แบบ ที่ช่วยให้การเดินทางจากกรุงเทพฯไปจันทบุรี เป็นเรื่องสะดวก ไม่ยุ่งยาก ทำให้วางแผนการเดินทางได้ง่ายกว่าที่คิด ถ้าใครกำลังมองหาที่เที่ยวในจันทบุรี แต่ติดเรื่องการเดินทางส่วนตัว ก็หมดห่วงไปได้เลย มาเตรียมตัววางแผนแล้วออกไปเที่ยวกันเลยดีกว่า