กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตที่มาแรงไม่ตกยุคจริง ๆ แค่เอ่ยชื่อพังงา ก็ชวนให้นึกถึงบรรยากาศทะเลสวย ๆ ฟ้าใส มีสถานที่ท่องเที่ยวเต็มไปหมด ทั้งหมู่เกาะ ปีนเขา ล่องเรือ ดำน้ำ หรือจะไปล่องแพ เล่นน้ำตกก็มีครบ ใครที่ชอบเที่ยวแบบจัดเต็ม รับรองว่ามาพังงาไม่มีผิดหวัง แต่จะมีจุดไหนน่าสนใจ และจะสวยแค่ไหน ต้องติดตามให้ครบกับทั้ง 15 ที่เที่ยวนี้
1. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
มาเที่ยวพังงาทั้งที ยังไงก็ขอยกให้ เกาะสิมิลันคือที่หนึ่งในดวงใจ เป็นสถานที่สำคัญในทริปที่ห้ามพลาด ที่นี่น้ำทะเลสีสวยสดใส หาดทรายขาวเนียนละเอียด ถ้าไม่บอกก็คงคิดว่านี่คือที่มัลดีฟ เหมาะที่จะมาทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างดำน้ำดูปะการัง แนวปะการังน้ำลึก น้ำตื้น สามารบอกไกด์ที่ดูแลเราได้เลย โดยอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันครอบคลุมพื้นที่กว่า 80,00 ไร่ ซึ่งถ้าใครมาเที่ยวพังงา ก็จะมีบริการทัวร์มากมายหลายเจ้า ที่จะพาให้คนมาเที่ยวทะเลดำน้ำและถ่ายรูปสวย ๆ บนชายหาดแห่งนี้ การเดินทางคลิกที่นี่
2. เกาะยาว
มาถึงที่เกาะยาวน้อยกันบ้าง ไม่ว่าจะฤดูไหน ช่วงไหน ก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนเสมอ เกาะยาวน้อย ไม่ได้มีแค่เกาะให้ชมปะการังหรือเล่นน้ำเท่านั้น แต่ยังประกอบไปด้วยเกาะเล็ก ๆ สถานที่ต่าง ๆ ที่น่าล่องเรือเที่ยว เช่น เกาะห้อง เกาะผักเบี้ย เกาะกูดู เกาะไข่นอก เกาะลาดิง ซึ่งแต่ละเกาะจะมีน้ำทะเลสีสวย ไม่เขียวมรกต ก็เป็นสีฟ้าคราม มองเห็นฝูงปลาเล็ก ๆ แหวกว่าย ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวก็นิยมจะมาทำกิจกรรมดำน้ำ และหามุมสวย ๆ ถ่ายรูป นอกจากนี้ถ้ามาเที่ยวกับทัวร์ จะมีพาไปชมกระชังบ้านมังกรที่มีการเลี้ยงกุ้งตัวใหญ่ และดูผลผลิตทางทะเลต่าง ๆ รวมถึงดูปลาทะเลที่หาชมยากอีกด้วย การเดินทางคลิกที่นี่
3. อุทยานแห่งชาติเขาหลัก-ลำรู่
อุทยานแห่งชาติเขาหลักลำรู่ ถือเป็นอุทยานที่วิวสวยงามอลังการ บรรยากาศทะเลสวยและเงียบสงบค่อนข้างเป็นส่วนตัว ภายในอุทยานแห่งนี้จะมีบริการที่พัก ซึ่งจะต้องทำการลงทะเบียนกับทางเจ้าหน้าที่ก่อน บนชายฝั่งน้ำใสสะอาดลงเล่นได้ มีร้านอาหารบริการตั้ งแต่ราคาแพงไปจนถึงหลักร้อยหลักสิบ ยามเย็นบรรยากาศจะดูโรแมนติก นักท่องเที่ยวก็นิยมมาถ่ายรูปเดินเล่นนอนอาบแดด การเดินทางคลิกที่นี่
4. อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา
มาต่อกันที่อุทยานแห่งชาติพังงากันบ้าง อุทยานที่นี่รักษาระบบนิเวศและดูแลความสวยงามของท้องทะเลได้อย่างอุดมสมบูรณ์ ครอบคลุมพื้นที่ในอำเภอตะกั่วทุ่ง อำเภอเมือง และอำเภอเกาะยาว ซึ่งที่นี่ชายฝั่งทะเลจะมีวิวทิวทัศน์ที่งดงาม ป่าชายเลนยังสมบูรณ์ มีเกาะธรรมชาติเล็ก ๆ อยู่ประมาณ 40 เกาะ มีกิจกรรมต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวทำมากมาย ทั้งมาล่องเรือ ลอดถ้ำชมความงามด้านใน นอกจากนี้ยังได้เพลิดเพลินไปกับการดูวิวของโหดหินบนเกาะ ที่เป็นรูปแตกต่างกันออกไป การเดินทางคลิกที่นี่
5. เกาะปันหยี
เกาะปันหยี เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าบ้านกลางน้ำ มีตำนานเล่าว่าที่เกาะนี้มีชื่อดังกล่าวเนื่องจาก “โต๊ะบาบู” ผู้นำอินโดนีเซีย ได้อพยพมาเมื่อ 200 ปีก่อน และมาเจอเกาะปันหยีก็ได้ปักธงให้พรรคพวกที่อพยพมาด้วยกันมาอยู่ที่นี่ คำว่าปันหยีจึงหมายถึงธง ที่นี่คือหมู่บ้านให้อยู่บนน้ำ มีที่ที่เป็นพื้นดินเพียงนิดเดียว เอาไว้สร้างมัสยิด และชาวเกาะส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาอิสลาม ที่นี่เหมือนเป็นหมู่บ้านที่ทุกคนจะอยู่กันอย่างรักใคร่กลมเกลียว ดำรงชีพด้วยการหาอาหารทะเล ทำผลิตภัณฑ์จากเปลือกหอย ทำผ้าบาติกและมีอาหารทะเลจำหน่าย จนกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่คนจะล่องเรือมาซื้อสินค้า เดินเล่นเที่ยวชมราคาเรือที่จะพาข้ามฝั่งมาจะมีบริการหลายแบบ ราคาก็จะแตกต่างกันไปตั้งแต่ 1,200 – 4,500 บาท การเดินทางคลิกที่นี่
6. อุทยานหมู่เกาะสุรินทร์
โดดเด่นเรื่องความสวยงามของธรรมชาติใต้ท้องทะเล ที่ไม่เป็นรองใคร น้ำทะเลสีฟ้าสวยใส มีมุมถ่ายรูปบนเกาะที่ดูเป็นส่วนตัว แนวปะการังอุดมสมบูรณ์ เป็นอีกแหล่งที่นักดำน้ำและนักผจญภัยใต้ท้องทะเลจะนิยมเลือกมาดำน้ำที่นี่ บนหมู่เกาะสุรินทร์จะประกอบไปด้วย 5 เกาะคือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะรี เกาะกลางและเกาะไข่ เดินทางโดยเรือสปีดโบ๊ท ซึ่งมีท่าเรือหลักอยู่ 3 ท่า ใช้เวลาเดินทางจากชายฝั่งมาถึงเกาะประมาณ 45 นาทีถึง 2 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ การเดินทางคลิกที่นี่
7. เกาะผ้า
หากคุณอยากมาเที่ยวทะเล แต่ชอบบรรยากาศเงียบสงบและเป็นส่วนตัวขอแนะนำให้มานอนพักค้างคืนที่เกาะผ้า เพราะมีน้ำทะเลสวยใส และวิวสวยงามไม่แพ้ที่อื่นในพังงา ที่นี่มีโรงแรม 5 ดาวหรู ๆ มากมายสามารถมองเห็นวิวทะเล นอนบนห้องพักสุดหรู โดยใช้เวลาเดินทางจากชายฝั่งของพังงาไม่นาน เพราะอยู่ห่างกันเพียงแค่ 10 กิโลเมตรเท่านั้น เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ก็จะได้มาสูดอากาศบริสุทธิ์ชมน้ำทะเลสีสวย ตัดกับหาดทรายสีขาว และที่มาของชื่อเกาะผ้าก็เพราะว่า ลักษณะของเกาะเรียบเหมือ นผ้านั่นเอง การเดินทางคลิกที่นี่
8. จุดชมวิวเสม็ดนางชี
จดชมวิวบรรยากาศดี ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของทริปพังงา เราจะได้เห็นวิวและบรรยากาศอ่าวพังงาที่ไกลสุดลูกหูลูกตา บรรยากาศอลังการหลักล้าน ที่นี่จะมีบริการห้องพักแบบรีสอร์ท และสามารถกางเต็นท์นอนได้ มีร้านอาหารและร้านกาแฟ ถ้าไม่นอนค้างก็ขึ้นมาดื่มกาแฟและชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น เราจะได้เห็นวิวภูเขาและน้ำทะเลที่ตัดกันกับขอบฟ้า จะสวยแค่ไหนก็ให้ภาพบรรยายเองก็แล้วกัน ขนาดนั่งทานอาหารในร้านก็ยังได้ชมวิวไปด้วย บอกเลยว่าฟินมาก ๆ ยิ่งช่วงพระอาทิตย์ตกดินเราจะได้ชมแสงทไวไลท์ สวยจนลืมหายใจเลยทีเดียว การเดินทางคลิกที่นี่
9. เขาไข่นุ้ย
เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่มีชื่อเสียงในจังหวัดพังงา เขาไข่นุ้ยมีความสูงประมาณ 200 เมตรจากระดับน้ำทะเล บนยอดเขามีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและให้ดูพระอาทิตย์ตกดินในยามเย็น ความสูงต่ำของภูเขาจะเรียงระดับเป็นมิติซ้อนกัน ยามเช้าที่เมฆหมอกเคลื่อนตัวกระทบกับภูเขาจะเป็นวิวที่สวยงามมาก นักท่องเที่ยวนิยมมานอนกางเต็นท์รอชมหมอกในตอนเช้า และยามกลางคืนที่แสงมืดสนิทจะได้เห็นดวงดาวเล็ก ๆ เต็มท้องฟ้า ที่นี่มีโฮมสเตย์และบ้านพักหลายแห่งให้ได้ลองมาใช้บริการกันด้วยแหละ การเดินทางคลิกที่นี่
10. คลองสังเน่ห์
มาเที่ยวที่นี่ เหมือนได้มาชมป่าอเมซอนขนาดย่อม ๆ สัมผัสบรรยากาศที่ตื่นเต้น ล่องเรือไปตามลำน้ำอย่างช้า ๆ ผ่านต้นไม้น้อยใหญ่สองข้างทาง ที่นี่ถือเป็นผืนป่าเล็ก ๆ ในจังหวัดพังงาที่อุดมสมบรูณ์มาก ๆ ยังมีพรรณพืชนานชนิดที่หายาก ให้ได้เห็น ได้มาเรียนรู้วิถีธรรมชาติ และถ้าโชคดีจะได้เห็นนกเงือก ซึ่งไม่บ่อยนักที่มันจะปรากฎตัวออกมา การเดินทางคลิกที่นี่
11. วัดสุวรรณคูหา (วัดถ้ำ)
วัดเก่าแก่ที่มีความสวยงามและเป็นสถานที่สำคัญของจังหวัดพังงา ซึ่งภายในถ้ำจะมีพระพุทธรูปประดิษฐาน ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวนิยมมากราบไหว้ขอพร โดยพระพุทธรูปที่ประดิษฐานด้านในเป็นพระพุทธไสยาสน์ที่หล่อทองทั้งองค์ ด้านในถ้ำมีความลึกลับ น่าค้นหา เดินเข้ามาแล้วจะสัมผัสได้ถึงความเย็น มีแสงลอดเข้ามานิดหน่อย ด้านนอกจะปกคลุมด้วยต้นไม้ และมีลิงอาศัยอยู่เต็มไปหมด นอกจากจะมาไหว้พระแล้ว ยังสามารถให้อาหารลิงและทำบุญได้ด้วย การเดินทางคลิกที่นี่
12. น้ำตกสระนางมโนราห์
สระนางมโนราห์เป็นลำธารที่เกิดตามธรรมชาติไหลผ่านช่องเขาและแอ่งน้ำ ทำให้มีน้ำลดหลั่นลงมาเป็นช่วง ๆ มีขนาดไม่กว้างไม่ลึกมาก ลงเล่นน้ำได้ แต่สิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวอยากมาเยือน ก็คือ ภายในบริเวณน้ำตกมีธรรมชาติที่ร่มรื่น อากาศเย็นสบายตลอดทั้งวัน ถ้ามาเที่ยวในช่วงหน้าร้อนเหมาะจะมาพักผ่อนกับครอบครัวมาก ๆ โดยบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ จะเปิดทำการทุกวันตั้งแต่เวลา 8:00 น – 16:00 น ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชมสถานที่ การเดินทางคลิกที่นี่
13. หาดเขาปิหลาย
มาถ่ายรูปสวย ๆ กับวิวสะพานไม้ที่ตั้งโดดเด่นกลางทะเล บนหาดเขาปิหลาย หาดแห่งนี้มีความชันไม่มากนัก ค่อย ๆ ลาดลงสู่ทะเล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ บรรยากาศหาค่อนข้างเป็นส่วนตัวนักท่องเที่ยวมาเยอะมาก มีแนวต้นสนตั้งเรียงรายตลอดชายหาด น้ำทะเลสีฟ้าใสสวย ตอนเย็นจะมีนักท่องเที่ยวมาจองที่ เพื่อรอชมพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน การเดินทางคลิกที่นี่
14. น้ำตกวังเคียงคู่
ถ้ามาเที่ยวในช่วงหน้าฝน ขอแนะนำว่าให้มาที่น้ำตกวังเวียงคู่ บรรยากาศอุดมสมบูรณ์ สดชื่น ท่ามกลางป่าสีเขียวขจี ที่นี่เป็นแหล่งให้สัตว์ป่าอาศัยอยู่ และมีกิจกรรมน่าทำมากมาย ทั้งล่องแพ เล่นน้ำตก กระโดดเชือก เล่นชิงช้า จะมีเจ้าหน้าที่คอยบริการนำทางไปให้ตามลำน้ำ เหมือนได้มาผจญภัยกลางป่าเลยล่ะ การเดินทางคลิกที่นี่ ฃ
15. เขาหน้ายักษ์
ปิดท้ายกันที่เขาหน้ายักษ์ ที่ตั้งอยู่บนหาดท้ายเหมืองอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติเขาลำปี เขาหน้ายักษ์จะอยู่ใกล้ ๆ กับบ้านท่าดินแดง บริเวณเขาจะมีวิวทิวทัศน์ของภูเขาสลับเรียงรายซ้อนสวยงาม มีวิวทะเลเห็นน้ำทะเลสีฟ้าครามสดใส และยังมีขนหินรูปร่างแปลก ๆ มากมาย ให้ได้เที่ยวชมถ่ายรูป ส่วนเรื่องที่มาของเขาหน้ายักษ์ เขาบอกว่า เดิมชื่อว่าเขาหน้าด้าน หันหน้าออกไปทางหมู่เกาะสิมิลัน หน้าผามีรูปร่างเหมือนกับใบหน้าของยักษ์ และเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเรือรบของทหารญี่ปุ่นผ่านบริเวณนี้ แล้วเกิดร่มลงไปโดยไม่มีสาเหตุ ทำให้เชื่อว่าน่าจะมาจากหน้าผารูปร่างคล้ายหน้ายักษ์ โดยกลัวและใช้ปืนยิง ยิงเข้าไปที่สวนหน้า จนเรือจมลงบริเวณทะเล จึงกลายเป็นตำนานเล่าขานความอาถรรพ์มาจนถึงทุกวันนี้ ที่นี่มีบริการให้กางเต็นท์ค้างคืน มีอาหารและน้ำดื่มบริการตลอดทั้งวัน หากจะมาพักผ่อนหย่อนใจก็ไม่ต้องเตรียมอะไรมาให้มากมายเลย การเดินทางคลิกที่นี่
เห็นแต่ละภาพ แต่ละสถานที่ ชวนให้อยากจะจัดกระเป๋าแล้วเดินทางมาทันทีเลย โดยเส้นทางที่จะมาพังงา ส่วนใหญ่แล้วจะนิยมนั่งเครื่องบินมาลงที่กระบี่ ไม่ก็ภูเก็ต แล้วขับรถต่ออีกประมาณ 1 ชั่วโมงนิด ๆ แค่นี้ดินแดนสวรรค์แห่งอันดามันก็รอต้อนรับแล้ว มาเที่ยวกันเยอะ ๆ น๊า
