เข้าช่วงฤดูปลายฝนต้นหนาวทีไหร่ ใจมันก็อยากออกไปเที่ยว ยิ่งได้ออกไปขึ้นดอย สัมผัสอากาศเย็น ๆ เจอหมอกฟิน ๆ ก็เข้าท่าเลยล่ะ และแน่นอนว่า ถ้าใครที่อยากไปลุยป่า กางเต็นท์รับลมหนาว “ดอยเสมอดาว” จังหวัดน่าน ต้องอยู่ในลิสต์อันดับต้น ๆ ที่นึกถึง แต่ที่ดอยเสมอดาวจะมีอะไรน่าสนใจ หรือนักท่องเที่ยวมือใหม่อยากไปเที่ยว จะต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง เราไปดูบรรยากาศพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า
อ่านเกี่ยวกับ
▪️ ที่พักสวยน่าน
▪️ ที่พักสวยปัว
▪️ ค้นหาตั๋วการเดินทางไปน่าน
▪️ ร้านอาหารเจ้าเด็ดน่าน
▪️ ร้านกาแฟน่านั่งน่าน
ขอขอบคุณภาพจาก อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จังหวัดน่าน – Sri Nan National Park
ดอยเสมอดาว ขึ้นชื่อว่าเป็นดอยที่มีความสวยงาม และมีความอุดมสมบรูณ์ของธรรมชาติและขุนเขา ในจังหวัดน่าน และยังติดอันดับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตตลอดกาล ในช่วงหน้าหนาวอีกด้วย พื้นที่ของดอยเสมอดาว อยู่ในเขตอำเภอเวียงสา อำเภอนาน้อย และอำเภอนาหมื่น ภายในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ในแต่ละปี จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมากางเต็นท์รับลมหนาว และรอชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า พร้อมทะเลหมอก
ถ้าใครที่เป็นนักท่องเที่ยวมือใหม่ ยังไม่เคยกางเต็นท์นอนบนดอย อาจจะมีข้อสงสัยว่า ที่ “ดอยเสมอดาว” ควรมาเที่ยวช่วงไหน ถึงจะเหมาะที่สุด ก็เห็นจะเป็นช่วงปลายฝน ต้นหนาว ในเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ อากาศจะหนาวจัด และค่อย ๆ เย็นสบาย ตื่นเช้ามาก็จะเจอหมอกหนา ๆ รอต้อนรับถึงหน้าเต็นท์ สวยจนลืมหายใจเลยก็ว่าได้
ในส่วนของการเดินทาง ถ้าใครที่เป็นสายชิล ไม่รีบร้อน จะขับรถยนต์ส่วนตัวมาเอง ก็ใช้เวลาประมาณ 9- 10 ชั่วโมงโดยประมาณ เส้นทางไม่โหดมาก แถมยังได้แวะเที่ยวระหว่างทางได้ด้วย
ถ้าใครรีบร้อน มีเวลาวันหยุดน้อย นั่งเครื่องบินมาเลยดีกว่า รวดเร็ว ทันใจ แถมมาถึง เดินทางต่ออีกนิดหน่อย ก็ได้ขึ้นมาถ่ายรูปสวย ๆ บนดอยแล้ว จับจองมุมกันได้เลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ๆ บนเครื่องบิน และขับรถต่ออีก 1 ชม. ก็เข้ามาสู่เขตอุทยานศรีน่าน
หากใครเป็นแนวลุย ๆ สายแบ็คแพ็คเกอร์ มีเวลาสโลว์ไลฟ์ ต้องการเซฟงบการเดินทาง ก็มีรถประจำทางมายังจังหวัดน่านด้วยนะ แต่ต้องต่อรถสาธารณะอีก 2 ต่อ ก็จะมาถึงดอยเสมอดาว ถ้ามากันหลาย ๆ คนมีเพื่อน แบบสุดท้ายก็เข้าท่า
สำหรับการมาเที่ยวที่ดอยเสมอดาว สะดวกสบายมาก ๆ ใครไม่มีเต็นท์ ไม่ต้องไปหาซื้อ หรือพกมาให้เหนื่อย ที่นี่มีบริการให้เช่าเต็นท์ บริการกางให้ด้วย ราคาอยู่ที่ 350 -500 บาท ถ้ามาเป็นครอบครัว อยากเดินพักในห้องสบาย ๆ ก็ติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานมาก่อนล่วงหน้าได้เลย มีหลายมุมให้เลือก แถมวิวสวย และยังมีระเบียงให้นั่งเล่นรับลมหนาวอีกด้วยนะ ราคาอยู่ที่ 1,800 – 2,000 บาท ต่อหลัง นอกจากนี้ก็ยังมีบริการหมูกระทะ ร้านขายของชำ เครื่องดื่ม อาหารตามสั่งต่าง ๆ อะไรจะสะดวกขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมถึงการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต เพราะบริการประทับใจอย่างนี้นี่เอง
ต่อมาเราลองมาดูมุมสวย ๆ ที่มาเที่ยวดอยเสมอดาวแล้วต้องแวะมาถ่ายรูปสวย ๆ ก็จะมีผาหัวสิงห์
ผาชู้ จุดชมวิวริมผา@ปลายฟ้า แก่งหลวง และบ้านหาดไร่ แต่ละมุมจะมีวิวเนินเขาที่สวยงาม อากาศตอนกลางวันกำลังเย็นสบาย ไม่ร้อนมาก และอีกจุดไฮไลท์ ที่ผาหัวสิงห์ เราจะเห็นเป็นรูปหัวสิงห์หมอบราบเคียงมากับเนินเขา จึงเป็นที่มาของชื่อหน้าผา แล้วอย่าลืมพกขาตั้งกล้อง เลนส์กล้องหลาย ๆ แบบมาถ่ายรูปกันให้จุใจไปเลย ส่วนใครที่มีกล้องดูดาว พกติดมาก็จะดีมาก เพราะกลางคืนดาวจะระยิบระยับเต็มทั่วท้องฟ้า
ส่วนข้อสำคัญในการมาเที่ยวดอยเสมอดาว คือ ต้องเช็คสภาพอากาศล่วงหน้า อย่างน้อยสัก 1 สัปดาห์ เพื่อช่วยให้วางแผนได้ง่ายขึ้น หากมีฝนตก หรือเจอช่วงพายุ ก็คงไม่เหมาะกับการมานอนดูดาวสักเท่าไหร่ และของสำคัญที่ควรต้องเตรียมมา ได้แก่ รองเท้าผ้าใบสำหรับเดินป่า รองเท้าแตะ ไม่น่าเหมาะนะ พกติดมาไว้ใส่เล่นได้ เสื้อกันหนาว จัดเต็มพร็อบมาให้พร้อม ไฟฉาย แบตสำรอง ยาฉีดกันยา ถุงขยะ และยาประจำตัว เพื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน หรือจะติดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเล็ก ๆ น้อย ๆ มาด้วยเข้าท่า
และหากว่าอ่านมาถึงบรรทัดนี้ ยังลังเลว่าจะมาเที่ยวที่ดอยเสมอดาว ดีหรือไม่ ขอบอกเลยว่า สักครั้งในชีวิตของคุณ ควรมามาก ๆ เพราะถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไม่กี่แห่งในประเทศไทย ที่สามารถมองดาวได้ชัด สวยงาม ได้บรรยากาศที่โรแมนติกมาก ๆ นอกจากนี้ยังได้ออกกำลังกาย กำลังใจ ในการเดินขึ้นมาบนดอย เปลี่ยนการใช้ชีวิตเร่งรีบ มานั่งสโลว์ไลฟ์ชมพระอาทิตย์ตกดิน รอดูทะเลหมอกสวย ๆ ยามเช้า แค่นี้ก็เติมเต็มความสุขในวันหยุดได้เป็นอย่างดี
พออ่านรีวิวจบ ทำเอาใจไม่อยู่กับตัวเลย อยากจะลองไปเที่ยว นอนเล่นดูดาวกันแล้วใช่มั้ยเอ่ย ถ้าใครที่สนใจ หรือมีข้อสงสัยอื่น ๆ เพิ่มเติม
สำหรับใครที่สนใจกิจกรรมนี้ สามารถเข้าไปสอบถามได้ที่เพจเฟซบุ๊ก “อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จังหวัดน่าน” หรือจะลองโทรหาเจ้าหน้าที่ ตามเบอร์นี้ 093- 242 – 2914 ได้เลย แต่ต้องรีบหน่อยนะ ยิ่งช่วงลมหนาว อากาศเย็น ๆ ห้องพักเต็มไว และลานกว้างบนดอยจะเรียงรายไปด้วยเต็นท์จำนวนมาก แต่บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว ที่ห้ามพลาด ค่าเข้าอุทยานราคาอยู่ที่ 30 บาท เท่านั้น หากจะเช่าเต็นท์ก็อยู่ที่ประมาณ 345- 500 บาท ต่อหลัง แล้วแต่ขนาดความใหญของเต็นท์ ที่นี่เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง มีเจ้าหน้าที่ประจำตลอดเวลา หากมาถึงช่วงเวลาไหน ก็ติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ทันที การเดินทางคลิกที่นี่
