เมืองไทยเป็นเมืองที่มีการท่องเที่ยวหลากหลายแนว และครบรสที่สุดในประเทศหนึ่งเลยก็ว่าได้ อยากจะไปดูภูเขาสวยๆ ขึ้นเหนือได้เลย อยากลอยคอในทะเลบนเกาะสวรรค์ ก็ล่องใต้ยาวๆไปได้ ถ้าพูดแบบไม่อวยประเทศตัวเองเลย ก็คงต้องบอกตรงๆว่า เมืองไทยนี่แหละน่าเที่ยวที่สุดแล้ว เพราะทั้งอาหาร ทั้งต้นทุนทางธรรมชาติของไทยเราเด็ดจริง สู้ประเทศอื่นๆได้สบายๆเลยค่ะ รวมทั้งอากาศของเมืองไทยเรา เอื้ออำนวยต่อการเที่ยวมากที่สุดแล้ว แต่วันนี้ทางไปมายังของเราขอฉีกแนว พาไปเที่ยวชมแนวย้อนยุค แนวประวัติศาสตร์กันสักหน่อย แล้วคุณจะรู้เลยว่าการเที่ยวชมเมืองเก่า ก็สนุกสุดฟิน และสามารถถ่ายรูปให้เก๋ไก๋ได้อีกด้วยนะ
เอาหละ เราจะไม่พูดพร่ำทำเพลงใก้เสียเวลา เพราะเราจะพาคุณผู้อ่านไป รับชมอยุธยาเมืองเก่า ของเราแต่ก่อน ที่ไหนว่าดี ที่ไหนถ่ายรูปสวย มุมไหนควรแชะภาพ หรือควรปักหมุดสักการะหลวงพ่อองค์ใด ทางเราจะปอกเปลือกแบบไม่เหลือร่องรอยใดๆเลยค่ะ
มาเริ่มต้นกับประวัติความเป็นมาของเมืองเก่าแห่งนี้สั้นๆดีกว่า อยุธยาเป็นเมืองที่ถูกสถาปนาโดยพระเจ้าอู่ทองเมื่อ 400 กว่าปีที่แล้วโน้นเลยค่ะ อยุธยามีความทันสมัยในเรื่องเกษตรกรรม มีการทำระบบน้ำ มีการวางผังเมืองอย่างเป็นระบบ มีการขุดลอกเพื่อให้อยุธยาเป็นเมืองแห่งเกาะลอยน้ำ และเกาะแห่งนี้ีความสมบูรณ์พูนผลเป็นอย่างมาก เป็นเส้นทางในการค้าขายที่สำคัญในอดีต เพราะมีแม่น้ำถึงสามสายมาบรรจบพบกันที่นี่ ไม่ว่าจะทำอาชีพค้าขาย ขนส่งทางเรือ เกษตรกรรม ประมง ก็ดูเหมือนว่าจะเจริญรุ่งเรืองไปซะทุกอาชีพ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2112 และปี พ.ศ. 2310 อยุธยาของเราก็โดนเผาราบเป็นหน้ากอง ถึงแม้กาลเวลาจะผ่านมา 400 กว่าปีแล้ว ผ่านการโดนทำลายจากมนุษย์และธรรมชาติมาพอสมควร แต่เชื่อไหมว่าความมีมนต์ขลัง มนต์เสน่ห์นั้นไม่ลดลงไปเลย เพราะยังมีร่องรอยแห่งความเจริญและยิ่งใหญ่เหลือทิ้งเอาไว้ให้ชม และศึกษาความเป็นมาทางประวัติศาสตร์อีกหลายที่ มาดูกันดีกว่าที่ไหนน่าไปบ้าง
วัดมหาธาตุจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นวัดที่อยู่ในการควบคุมของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ในอดีตวัดแห่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นวัดที่ใช้จัดพระราชพิธีต่างๆของกษัตริย์แห่งอโยธยา อีกทั้งทำเลของวัดแห่งนี้ยังถูกสร้างให้อยู่ใจกลางเมืองอโยธยาอีกด้วย เนื่องจากเป็นวัดที่สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 ทรงตั้งใจสร้าง เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ให้ชาวอโยธยาได้กราบไหว้ รวมทั้งยังมีความเชื่ออีกว่าหากสร้างวัดแห่งนี้ไว้ใจกลางนครอโยธยา จะทำให้สถานที่แห่งนี้มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองในทุกๆด้าน โดยเฉพาะด้านศาสนา หากมาถึงที่นี่แล้ว ขอบอกว่าอย่าพลาดที่จะถ่ายรูปกับเจดีย์ทรงแปดเกลี่ยมนะ เพราะว่าเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมในสมัยอยุธยา มีเพียงแค่ที่วัดนี้วัดเดียวนะคะ
ความเด็ดดังของวัดมหาธาตุจังหวัดอยุธยายังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะยังมีซิกเนอเจอร์อีกหนึ่งจุด ที่ดังไปไกลระดับโลกเชียวนะ หลายๆคนอาจเคยเห็นภาพเศียรพระพุทธรูปถูกรากโพธิ์พันล้อมเอาไว้ ถือเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่สรรสร้างศิลปะออกมาได้อย่างน่าชมและสวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแห่หลั่งไหลมาชมความงาม ณ จุดนี้ อย่างไม่ขาดสาย จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2534 วัดมหาธาตุจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับการขึ้นขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สถาปัตยกรรม รวมถึงเรื่องราวมหัศจรรย์ดังกล่าว เหมาะสมและควรแค่แก่การเป็นมรดกโลกแล้วค่ะ ยังไงหากเหยีบเข้ามาในอาณาเขตของวัดแห่งนี้แล้ว อย่าลืมมาชมนะ ไม่งั้นเสียดายแย่เลย พูดได้เลยว่าหากมาถึงแล้ว ไม่มา ณ จุดรากโพธิ์ห่อหุ้มเศียรพระ ถือว่ามาไม่ถึงนะคะ
ค่าเข้าชม
– ชาวไทย 10 บาท ส่วนผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นเข้าชมฟรี
– ชาวต่างชาติ 50 บาท
เวลาทำการ
ทุกวัน 08.00 -18.00
การเดินทาง
วัดมหาธาตุ ถนนนเรศวร ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอ ระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การเดินทางคลิกที่นี่
ติดต่อสอบถาม
– เว็บไซต์
โทรศัพท์ : 035-242 286
วัดไชยวัฒนาราม พระเจ้าปราสาททรงสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นในปี พ.ศ. 2173 ใช้เป็นที่บำเพ็ญพระราชกุศลและเป็นที่ถวายพระราชเพลิงศพ ซึ่งในภายหลังนั้นวัดแห่งนี้ก็ได้เป็นสถานที่ที่รับใช้ร่างของพระเจ้าปราสาททองเป็นแห่งสุดท้ายเช่นกัน ลักษณะเด่นของวัดแห่งนี้คือการสร้างเมรุทิศเมรุรายด้วยความประณีต มีการลดหลั่นชั้นเชิงอย่างสวยงาม จัดวางเมรุทิศเมรุรายอยู่ใจกลางพระปรางค์ขนาดต่างๆด้วยกัน การจัดวางนั้น จัดวางได้อย่างแม่นยำมาก เป็นทิศทางที่วางได้แบบเป๊ะๆ ทำให้รู้ว่าเทคโนโลยีของคนสมัยก่อนไม่ได้ด้อยไปกว่าสมัยใหม่สักเท่าไหร่เลย มุมยอดนิยมในการถ่ายภาพคือ การถ่ายภาพรวมพระปราค์และเมรุทิศเมรุรายให้รวมอยู่ในเลนส์เดียวกัน หากยิ่งถ่ายตอนตะวันใกล้ตกดินสวยมากๆ ดูมีเสน่ห์และมนต์ขลังอย่างอธิบายไม่ถูก
ค่าเข้าชม
– ชาวไทย 10 บาท ส่วนผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นเข้าชมฟรี
– ชาวต่างชาติ 50 บาท
เวลาทำการ
ทุกวัน 08.00 -18.00
การเดินทาง
วัดไชยวัฒนารมาม ตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การเดินทางคลิกที่นี่
ติดต่อสอบถาม
– เว็บไซต์
โทรศัพท์ : 035-242 286
วัดพระศรีสรรเพชญ์ เจดีย์ของวัดแห่งนี้มีลักษณะเป็นทรงลังกา มีเจดีย์ทั้งหมด 3 องค์ แต่ละองค์มีความเป็นมาดังนี้ แต่เดิมนั้นสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมอัฐิของพระราชบิดาอย่างสมเกีบรติ จากนั้นถึงสร้างเจดีย์องค์กลางเพื่อสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 และเจดีย์องค์สุดท้ายนั้นสร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 รวมเป็น 3 องค์จวบจนปัจจุบัน นอกจากนี้แล้วสถานที่แห่งนี้ยังเป็นพระราชวังโบราณอีกด้วยนะ ลองคิดดูนะขนาดเหลือแค่ซากยังอลังการขนาดนี้ หากคงความสมบูรณ์มาจนปัจจุบัน คงจะมีทองเหลืองอร่ามเคลือบสถาปัตยกรรมหรือหากมีของมีค่าตกแต่งสถาปัตยกรรมเอาไว้ คงสวยงามและยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงกับวัดมีร้านให่เช่าชุดไทยหลายร้านด้วยกัน ใครอยากได้รูปโปรไฟล์ฟีลแบบอยุธยา ขอให้จัดเลยค่ะ ทั้งบรรยากาศฉากหลังพร้อมเต็มร้อยอยู่แล้ว จัดไปอย่าให้เสียเที่ยวค่ะ
ค่าเข้าชม
– ชาวไทย 10 บาท ส่วนผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นเข้าชมฟรี
– ชาวต่างชาติ 50 บาท
เวลาทำการ
ทุกวัน 08.00 -18.00
การเดินทาง
วัดพระศรีสรรเพชญ์ ตั้งอยู่ที่ ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การเดินทางคลิกที่นี่
ติดต่อสอบถาม
– เว็บไซต์
โทรศัพท์ : 035-242 286
วัดโลกยสุธาราม ถูกสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลาง เพราะในสมัยนั้นมีความเจริญรุ่งเรืองทางด้านพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก ร่องรอยแห่งความเจริญทางด้านพุทธศาสนาที่เห็นได้อย่างเด่นชัด โดยไม่ต้องซูมเลยก็คือพระพุทธปางไสยาสน์ ที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะอโยธยา ตั้งตระหง่านอยู่กลางแจ้ง มีความยาวตั้งแต่พระเศียรจรดพระบาทประมาณ 42 เมตร และมีความสูงจากฐานสู่จุดสูงสุดที่ประมาณ 8 เมตร บริเวณพระเศรียรมีดอกบัวรองรับเสมือนนอนหนุนดอกบัว พระพุทธรูป ณ วัดแห่งนี้ ดึงดูดให้ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาให้มากราบไหว้อยู่บ่อยครั้ง และตามความเชื่อของชาวพุทธบอกว่า การได้มากรายไหว้พระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่แบบนี้ ถือเป็นความมงคลต่อชีวิตเป็นอย่างมาก หากมาแล้วทางเราก็อยากให้มากราบไหว้กันนะ เพื่อสะสมแต้มบุญ เมื่อกราบไหว้เสร็จ ทางเราอยากให้เดินสังเกตลายละเอียดในการสร้างพระพุทธรูปสักนิด และคุณจะรู้เลยว่าคนสมัยก่อนฝีมือเขาเอาอยู่จริงๆ
ค่าเข้าชม
ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เข้ากราบสักการะได้แบบฟรีๆ
เวลาทำการ
ทุกวัน 08.00 -18.00
การเดินทาง
วัดโลกยสุธา ตั้งอยู่ที่ ถนนอู่ทอง ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การเดินทางคลิกที่นี่
ติดต่อสอบถาม
– เว็บไซต์
โทรศัพท์ : 035-242 286
วัดราชบูรณะ เป็นหนึ่งสถานที่ที่ได้รับการถ่ายทำจากบทละครที่ประพันธุ์โดย นักเขียนมากฝีมือและประสบการณ์ อย่างทมยันตี ฉากในละครว่าสวยงามแล้ว มาเจอเข้ากับฉากจริงตรงหน้า บอกเลยว่าสวยกว่าเยอะ ที่ทางกองละครพิศวาทเลือกถ่ายในวัดราชบูรณะ เนื่องจากวัดแห่งนี้มีอาณาจักรที่กว้างใหญ่กว่าวัดไหนๆในอุทยาน และถือเป็นวัดที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในแผ่นอโยธยา มีปรางค์ประธานตั้งอยู่ตรงกับประตูทางเข้า มุมนี้แหละ หากตั้งใจถ่ายภาพออกมาดีๆ จะปังมาก การมาเที่ยวสถานโบราณนั้น อยากให้ดูสไตล์ศิลปะของที่นั้นๆด้วย และคุณผู้อ่านจะรู้ว่าแต่ละที่มีความโดดเด่นที่ต่างกัน นอกจากศิลปะสวยๆแล้ว ขอบอกว่าที่นี่เป็นกรุรวบรวมสมบัติในอดีตอีกด้วยนะคะ เป็นยังไตื่นเต้นไหม เสมือนมาเดินล่าหาสมบัติอย่างไงอย่างงั้นเลยค่ะ แต่เสียใจด้วยนะ สมบัติทุกชิ้นที่ว่าเป็นของประเทศ ณ ปัจจุบันไม่มีเหลือในกรุดังกล่าวแล้ว เพราะทางกรมศิลปากรได้นำสมบัติทุกชิ้นเอาไปเก็บรักษา เพื่อป้องกันความเสีย และการโจรกรรมอีกด้วย
ค่าเข้าชม
– ชาวไทย 10 บาท ส่วนผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นเข้าชมฟรี
– ชาวต่างชาติ 50 บาท
เวลาทำการ
ทุกวัน 08.00 -18.00
การเดินทาง
วัดราชบูรณะ ตั้งอยู่ที่ ถนนชีกุน ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การเดินทางคลิกที่นี่
ติดต่อสอบถาม
– เว็บไซต์
โทรศัพท์ : 035-242 286
โบราณสถานส่วนมากในสมัยอยุธยา อยู่ในความควบคุมของอุทยานประวัติศาสตร์ อยุธยา พื้นที่ของอุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้กินพพื้นที่ขนาดใหญ่มากถึง 1,810 ไร่ ลองคิดดูว่าใหญ่ขนาดไหน ที่ทางเรานำเสนอไปนั้นเป็นเพียงโบราณสถานเด็ดๆที่มีความสำคัญทางประวัิติศาสตร์ หากจะให้รีวิวทั้งหมดคงไม่พอในหนึ่งคอนเท้นแน่นอนค่ะ ดังนั้นแล้วทางเราจึงเลือกคัดสรรมาเพียงบางสถานที่ที่ควรไปเท่านั้น แต่ละเมืองเก่าในอยุธยา มีประวัติความเป็นมา และความน่าสนใจที่แตกต่างกัน แต่ที่ควรเหมือนกันทุกที่ในการเที่ยวเมืองประวัติศาสตร์ ก็คือ การเที่ยวแบบอนุรักษ์ ไม่หยิบวัตถุโบราณกลับบ้าน ไม่ทำลาย ไม่ขูดขีด เพราะขึ้นชื่อว่าโบราณสถาน ก็ย่อมผ่านกาบเวลามาเป็นหลักร้อยปี หากเปรียบก็เสมือนคนเฒ่าคนแก่ ดังนั้นแล้วการไปเที่ยวสถานที่แบบนี้ ต้องถนุถนอม ช่วยกันดูแลรักษาวัตถุโบราณทุกชิ้น อย่าไปหยิบกลับบ้านเชียวนะ เพราะอาจมีใครตามไปทวงถึงบ้านก็ได้ หากไม่ใช่ตำรวจก็อาจเป็น… ทางเราเตือนแล้วนะคะ